คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านชอบคิดว่าลูกตัวเองไม่เก่ง …

“ดูบ้านนั้นสิ ลูก ๆ เขาสอบติดหมอกันยกบ้านเลย วันหนึ่งหนูจะทำให้แม่ภูมิใจแบบนั้นบ้างได้ไหม” เป็นคำถามหนึ่งของคุณแม่ ที่มีต่อน้องพลอยลูกสาววัย ม.ต้น ที่ผลการเรียนอยู่ในระดับที่คนทั่วไปเรียกว่า “ย่ำแย่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์

น้องพลอยสอบตกวิชาคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ แทบทุกครั้งที่มีการสอบ ถ้ามีการประกาศรายชื่อนักเรียนที่ต้องสอบซ่อมใน 2 วิชานี้ ก็จะมีชื่อของน้องพลอยร่วมอยู่ด้วยเสมอ น้องพลอยมีพี่ชาย 1 คน และน้องสาวอีก 1 คน ซึ่งเรียนเก่ง ผลการเรียนดี และได้รับคำชมจากคุณพ่อคุณแม่อยู่เสมอ เพราะฉะนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่น้องพลอยจะต้องถูกเปรียบเทียบ เปรียบเทียบในระหว่างพี่น้องกันเองก็แย่แล้ว ยังถูกเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ บ้านอีก

ถ้าจะมีอย่างหนึ่งที่น้องพลอยทำได้ดีมาก ๆ นั่นคือ การวาดรูป น้องพลอยได้คะแนนวิชาศิลปะดีที่สุดในชั้นเรียน น้องพลอยส่งผลงานเข้าประกวดระดับโรงเรียนก็ได้ที่หนึ่ง และเป็นที่ยอมรับว่าฝีมือดีกว่ารุ่นพี่หลาย ๆ คนเสียอีก น้องพลอยเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันวาดรูประดับจังหวัด และก็ได้รางวัลมาหลายครั้ง ฝีมือของน้องพลอยกำลังจะไปถึงระดับประเทศในอีกไม่นาน คุณพ่อคุณแม่ของน้องพลอย รับรู้รับทราบทั้งหมดถึงความสามารถและความสำเร็จของน้องพลอยในด้านศิลปะ …

แต่ไม่ภูมิใจ …

“พ่อว่าหนูต้องเลิกวาดรูป และหันมาอ่านหนังสือจริงจังได้แล้ว ถ้าลูกวาดรูปได้ดีขนาดนี้ ทำไมลูกจะทำเกรดวิชาเลขกับวิทย์ให้มันดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้”

ในสายตาของคุณพ่อคุณแม่ น้องพลอยไม่เคยเป็นคนเก่ง เพราะเมื่อวัดกันด้วยตัวชี้วัดแบบที่สังคมไทยเราชอบใช้ นั่นคือผลการเรียนในวิชาหลัก ๆ อย่างคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ น้องพลอยคือคนที่ไม่เก่งเอามาก ๆ น่าเสียดายว่าความเก่งที่แท้จริงของน้องพลอยนั้น ไม่มีค่าเลยในสายตาของคุณพ่อคุณแม่

หลาย ๆ บ้านก็อาจจะเป็นแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่าลูกของตัวเองไม่เก่ง เพราะเผอิญตัวชี้วัดที่นำมาใช้กับลูกนั้น ไม่ใช่ตัวชี้วัดที่เหมาะกับเขาจริง ๆ เหมือนที่ใครบางคนกล่าวไว้ว่า เราไม่ควรตัดสินว่าปลาไม่เก่ง เพียงเพราะมันปีนต้นไม้ไม่ได้ … รู้ทั้งรู้ แต่เราก็ยังตัดสินกันแบบนั้น

ผมมีโอกาสได้ฟัง Podcast ของคุณนิ้วกลม สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ รายการความสุขโดยสังเกต ตอนที่ 31 พรสวรรค์ของฉันคืออะไร มีประโยคหนึ่งที่ดีมาก ๆ ครับ คุณนิ้วกลมพูดประมาณว่า คน ๆ หนึ่งจะดูไร้ค่ามาก ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนเก่ง มีพรสวรรค์ มีข้อดีในตัวเองมากมาย แต่เรากลับไปพยายามคิดเอาเองว่าข้อดีของเขาควรจะเป็นอะไร พยายามไปตีกรอบว่าเขาควรจะเก่งอะไร เขาควรจะทำอะไร ซึ่งสุดท้ายแล้วมันไม่ได้เป็นตัวเขาเองเลย

เหมือนกรณีของน้องพลอย น้องพลอยมีพรสวรรค์ด้านศิลปะ น้องพลอยจะไปได้ดีมาก ๆ ถ้าได้รับการสนับสนุนในด้านที่เป็นตัวเขาเองจริง ๆ ให้ทำให้ดีที่สุด ให้ไปได้ไกลที่สุด แต่เพราะคุณพ่อคุณแม่ต้องการอีกอย่าง จึงมองข้ามข้อดีทั้งหมดของน้องพลอยไป แล้วพยายามจะเอาความคิดของตัวเองไปตัดสินว่าสิ่งที่ดีคือะไร สิ่งที่ถูกที่ควรคืออะไร ซึ่งสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวของน้องพลอยเลย สุดท้าย เด็กที่มีของดีในตัวก็ถูกทำลายทิ้ง

ลองจินตนาการกันว่า ถ้าวันหนึ่งน้องพลอยทำสำเร็จตามที่คุณแม่ต้องการ สอบเข้าไปเป็นหมอได้ จนถึงเรียนจบมาเป็นหมอได้ น้องพลอยจะเป็นหมอแบบไหน ถ้าน้องพลอยไม่ได้มีความสุขกับการคุยกับคนไข้ น้องพลอยไม่ได้ชอบวิทยาศาสตร์ น้องพลอยไม่ได้ชอบอยู่กับวินาทีชีวิตที่กดดัน น้องพลอยไม่ได้ชอบเลือด สารคัดหลั่ง สิ่งสกปรก และการเป็นหมอก็ทำให้น้องพลอยมีเวลาน้อยจนไม่สามารถทำสิ่งที่ตัวเองชอบคือวาดรูปได้อีกต่อไป

คุณพ่อคุณแม่อยากให้ชีวิตลูกเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหรอครับ แลกกับความภูมิใจอันแสนสั้น ชั่วครั้งชั่วคราวนั้นที่คุณพ่อคุณแม่ได้รับมาจากการเสียสละความสุขทั้งชีวิตของลูก

มีบทกลอนหนึ่งจากหนังสือ Winnie the Pooh เขียนเอาไว้ว่า

“ขนมเอย ขนมครก เกิดเป็นนกไม่บินก็สิ้นท่า มีปัญหาลับสมองลองถามมา จะตอบว่า ขนมครก ขนมครก
ขนมเอย ขนมครก ปลาขึ้นบกก็หงายท้องตายอ้าซ่า มีปัญหาลับสมองลองถามมา จะตอบว่า ขนมครก ขนมครก”

เกิดเป็นนกไม่บินก็สิ้นท่า ถ้าเกิดเป็นนกก็ควรจะได้โบยบิน ถ้าบังคับว่าเขาห้ามกางปีกบิน แต่ให้เดินไป ให้ว่ายน้ำไป นกก็จะไม่เป็นนกอีกต่อไป

หรือถ้าเลวร้ายกว่า เขาเกิดเป็นปลา แต่ให้เขาว่ายขึ้นไปบนบก ไปใช้ชีวิตอยู่บนบก สุดท้ายจะได้อะไร นอกกจาก ปลาขึ้นบกก็หงายท้องตายอ้าซ่า

ทุกคนมีข้อดีของตัวเอง มีสิ่งที่เป็นตัวเขามากที่สุด การหาให้เจอว่าเขาคือใคร เขามีดีอะไร เขาเป็นเช่นไร แล้วสนับสนุนให้เขาเติบโตในสิ่งที่เขาเป็นจริง ๆ คือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณพ่อคุณแม่จะให้กับลูก ๆ ได้ การพยายามยัดเยียดความคิดของตัวเอง ว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้ดี แล้วบังคับให้นกกลายเป็นปลา ให้ปลากลายเป็นนก นั่นก็คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่คุณพ่อคุณแม่จะให้กับลูก ๆ ได้เช่นกัน

เพราะนั่นคือการทำลายความสุขและชีวิตทั้งชีวิตของลูก ด้วยน้ำมือของเราเองครับ