เราน่าจะเคยได้ยินคำว่า Extra-curricular Activities ซึ่งหมายถึงกิจกรรมต่าง ๆ นอกเหนือจากชั่วโมงเรียนปกติ เช่น การเล่นกีฬา การเล่นดนตรี การทำงานด้านศิลปะ ฯลฯ ซึ่งหลาย ๆ คนมีความเชื่อว่า ถ้าอยากจะเข้า Top UK Universities จะต้องทำ Extra-curricular Activities เยอะ ๆ จึงทุ่มเวลาให้กับกิจกรรมเหล่านั้นมากมาย
น่าเสียดายว่า จริง ๆ แล้ว Top UK Universities ไม่ได้ให้น้ำหนักกับ Extra-curricular Activities ขนาดนั้น
Top UK Universities ให้ความสำคัญกับอะไร
โดยปกติแล้ว Top UK Universities มีหน้าที่ใช้ Knowledge (ความรู้) เป็นเครื่องมือในการพัฒนา Skills (ทักษะ) ต่าง ๆ ที่ควรจะมีก่อนเรียนจบ Bachelor Degree ให้กับคนที่เข้าไปเรียน ให้ขึ้นไปสู่ระดับสูงสุด ซึ่งพวกเขามีความเชื่อว่า Skills จะถูกพัฒนาไปจนถึงระดับสูงสุดได้นั้น จะต้องพัฒนาจากการได้เรียนและทำในสิ่งที่คน ๆ นั้น Born to be จริง ๆ จึงเป็นหน้าที่ของ Top UK Universities ที่จะต้องคัดเลือกคนที่ Born to be จริง ๆ เท่านั้น เข้าไปเรียน
เพราะฉะนั้น นอกเหนือจากเกรด IGCSE, AS-level, และ Predicted Grade ที่เป็นตัวบอกเรื่องของความสามารถทางการเรียนแล้ว Top UK Universities จึงพิจารณาคุณสมบัติความ Born to be ของผู้สมัครจาก
- Personal Statement – Essay ความยาว 4,000 ตัวอักษร ที่เราเขียนเพื่อแสดงความ Born to be ของเรา
- Reference – Essay ความยาว 4,000 ตัวอักษร ที่คุณครูเขียนให้เราเพื่อแสดงความ Born to be ของเรา
- Admissions Tests – ข้อสอบวัด Skills เพื่อวัดความ Born to be ของเรา
- Interview – การสัมภาษณ์เพื่อวัดความ Born to be ของเรา
ทุก ๆ ปีจะมีคนที่ผลการเรียนยอดเยี่ยม ถูกปฏิเสธจาก Top UK Universities เพราะคุณสมบัติความ Born to be นั้นไม่เพียงพอ และสิ่งที่เป็นปัญหามาก ๆ ก็คือ Personal Statement ที่ไม่สามารถแสดงความ Born to be ของเราออกมาได้ เพราะขาด Super-curricular Activities ที่ดีพอนั่นเอง
Super-curricular Activities คืออะไร
จริง ๆ แล้ว Super-curricular Activities ก็เป็น Extra-curricular Activities ประเภทหนึ่งคือเป็นกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำนอกเหนือจากชั่วโมงเรียนปกติ เพียงแต่คุณสมบัติที่สำคัญของ Super-curricular Activities ในมุมมองของ Top UK Universities คือ
- มีความเกี่ยวข้องกับ Course ที่เราจะสมัครเรียนโดยตรง
- เป็นกิจกรรมที่ทำให้ได้ฝึก Skills ที่เกี่ยวข้องกับ Course นั้น ๆ ที่เราจะสมัคร
- เป็นสิ่งที่น้อยคนนักจะได้ทำ เช่น ไม่ใช่สิ่งที่โรงเรียนจัดหาให้แล้วได้ทำกันทั้งโรงเรียน แต่เป็นสิ่งที่เราขวนขวายเพื่อที่จะได้มา
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะสมัครเรียนต่อด้าน Engineering ของ Top UK Universities สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็น Super-curricular Activities
- การฝึกงาน (Work Experience) หรือดูงาน (Work Shadow) ด้าน Engineering
- การไป Summer School หรือลงเรียน Online Course กับสถาบันในต่างประเทศ ในด้าน Engineering
- การเข้าร่วม Competition ในด้าน Engineering เช่น Robotics and Programming
- การเข้าฟัง Lecture กับ Top Universities ในด้าน Engineering
- การทำ Personal Research ในหัวข้อเกี่ยวกับ Engineering ที่น่าสนใจ
- การอ่านหนังสือ เกี่ยวกับ Engineering ตาม Reading Lists ที่ Top Universities แนะนำ
เมื่อ Super-curricular Activities อยู่ใน Personal Statement เราจึงเป็นคนที่โดดเด่น
เพราะ Super-curricular Activities เป็นสิ่งที่ต้องขวนขวายถึงจะได้มา และ มีความเกี่ยวข้องกับ Course ที่จะสมัครเรียน มันจึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงความตั้งใจของเราและความ Born to be ของเราอย่างแท้จริง เมื่อมีสิ่งนี้อยู่ใน Personal Statement ก็จะทำให้ Top UK Universities เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เรา Born to be อย่างไร และเรามีความเหมาะสมกับสิ่งที่กำลังจะสมัครเรียนอย่างไร
ซึ่งในการกล่าวถึง Super-curricular Activities นั้น สิ่งที่สำคัญกว่าเรื่องที่ว่าเราทำ Super-curricular Activities เหล่านั้นที่ไหน หรือ นานเท่าไร คือ เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง และ เราได้พัฒนา Skills ที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง การเขียนเล่าให้มีหลักฐานที่ชัดเจน และมี Evidence Support จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ
และเพื่อให้เรามี Super-curricular Activities ที่มากพอและหนักแน่นพอที่จะเขียนลงใน Personal Statement ได้ คำแนะนำคือให้เริ่มเก็บสะสม Super-curricular Activities ตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น ตั้งแต่ Year 10 เป็นต้นไป แล้วค่อย ๆ เขียน Personal Statement สะสมข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มา และขัดเกลาไปเรื่อย ๆ พอถึงวันที่ต้องใช้ Personal Statement ในการสมัครเข้า Top UK Universities เราก็จะมี Personal Statement ที่ดีที่สุด
จุดที่ดีที่สุดในการเริ่มทำ Super-curricular Activities คือปิด Summer นี้
ปิด Summer เดือน July – August ที่จะถึงนี้ เป็นจุดที่ดีที่สุดที่จะเก็บสะสม Super-curricular Activities หลาย ๆ คนใช้โอกาสนี้ ที่ไม่ต้องไปโรงเรียน หาสถานที่ทำ Work Experience และไป Summer School ที่ต่างประเทศ
หรืออย่างกรณีของปีนี้ ที่ยังมีสถานการณ์ของ Covid-19 การไป Summer School ที่ต่างประเทศอาจเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกนัก ทางสถาบันต่าง ๆ ของประเทศอังกฤษจึงเปลี่ยนรูปแบบของ Summer School ให้เป็น Online Course ซึ่งแก่นและความน่าสนใจก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม เช่น
- Oxford International College – มี Course University Preparation 4 สัปดาห์ ที่มีจุดเด่นคือ
- ทำ Personal Statement เสร็จทันทีเมื่อจบ Course
- ได้เข้าร่วม Global Space Design Challenge ของ Imperial College London ซึ่งเป็นการสมมติว่าถ้าวันหนึ่งต้องย้ายไปอยู่นอกโลก เราในฐานะของคนที่ประกอบอาชีพนั้น ๆ จะทำ Project อะไรบ้างเพื่อเตรียมการสำหรับมนุษยชาติ
- ได้เข้าร่วม Work Experience ในอาชีพที่สนใจ กับ InvestIn
- ได้ฝึก Admissions Tests และ Interview
- King’s College London – มี Pre-University Summer School 2 สัปดาห์ มีจุดเด่นคือเป็น Course ที่เน้นให้เราได้ประสบการณ์เกี่ยวกับ Career ต่าง ๆ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 7 ด้าน (เลือกแค่ด้านเดียว) คือ
- Business Management
- Law
- The Human Body
- International Relations
- Art & Humanities
- Psychology
- Science, Technology & Engineering
หากสนใจ Online Course ข้างต้นหรือ Super-curricular Activities อื่น ๆ สำหรับ Summer นี้หรือตลอดปี สามารถติดต่อทีมงานของ APSthai ได้ที่ 084-320-1789 หรือทาง Line @apsthai ได้ครับ
อยากเข้า Top UK Universities อย่าลืมเตรียม Super-curricular Activities ให้พร้อม จะได้ไม่พลาดโอกาสนะครับ