หมอ หรือ Medicine เป็นหนึ่งในสาขาที่เข้ายากที่สุดของประเทศอังกฤษ ด้วย 2 เหตุผล
เหตุผลแรกนั้น เหมือนกับสาขาอื่น ๆ ทั่วไป คือเขาต้องคัดคนที่ Born to be ที่สุดเข้าไปเรียน เพียงแต่ว่าการจะบอกว่าใคร Born to be หรือไม่นั้น มีขั้นตอนที่โหดกว่าสาขาอื่น ๆ มาก ซึ่งถ้าไม่นับด้านของความสามารถในการเรียนวิชาการจาก IGCSE, A-level, หรือ IB แล้วนั้น
- Personal Statement และ Reference ต้องโดดเด่น อัดแน่นไปด้วยประสบการณ์การฝึกงาน หรือการพูดถึงทักษะ นิสัย และ กิจกรรมยามว่าง ที่บ่งบอกว่าเรามีคุณสมบัติในการเป็นหมอจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความใฝ่รู้ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ความเมตตา ทักษะทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
- คะแนนสอบ Admissions Tests อย่าง UCAT และ BMAT ที่ต้องสูงลิบลิ่ว เพราะนี่คือสิ่งที่จะบอกได้ว่าเรามีทักษะในการเป็นหมอจริง ๆ (หมายเหตุ : การสอบ BMAT กำลังจะยกเลิกในปี 2024 อย่างไรก็ดี เขาคงหาการสอบอย่างอื่นหรือวัดผลแบบอื่นที่เทียบเท่ามาแทนอย่างแน่นอน)
- ความสามารถในการ Interview ต้องโดดเด่นและแสดงทักษะรอบด้าน ซึ่งจะวัดจากการรับมือกับเรื่องเฉพาะหน้าหลาย ๆ เรื่อง จากการสัมภาษณ์แบบ MMI (Multi Mini Interview) หรือการสัมภาษณ์แบบ Panel ที่มีสถานการณ์กดดันมากมายให้ต้องจัดการ
เหตุผลแรกว่ายากแล้ว เหตุผลที่สองยิ่งที่ทำให้โอกาสของเด็กอินเตอร์อย่างเรา ๆ ลดลงไปอีก นั่นคือ ประเทศอังกฤษได้มีการจำกัดโควต้านักเรียนต่างชาติที่จะเข้ามาเรียนหมอ ทำให้ต่อให้มีผู้สมัครที่ Born to be มากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเป็นเด็กอินเตอร์ก็จะต้องมีบางคนถูกตัดทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ตัวเลขโดยประมาณการณ์นั้น หนึ่ง University สามารถรับเด็กอินเตอร์เข้าไปเรียนหมอได้เพียง 7.5% เท่านั้น
ทำให้ทุก ๆ ปีคนที่ Born to be หมอมาก ๆ แต่กลับสมัครหมออังกฤษแล้วไม่ได้สักที่ เรียกได้ว่าดีมากพอแล้ว แต่ที่นั่งมันมีน้อยเกินไป
เพราะฉะนั้น การสมัครหมออังกฤษจึงควรมีแผนสำรองเสมอ ถ้าเราอยากเรียนหมอต่างประเทศจริง ๆ และเรื่องนี้แม้แต่โรงเรียนระดับ Top ในประเทศอังกฤษ เขาก็มีแผนสำรองกัน และหนึ่งในแผนสำรองที่เขาใช้ก็คือ ใครสมัครหมอที่อังกฤษ ก็ให้สมัครหมอที่ Ireland ไปด้วยเลย
คนที่ Born to be ว่าจะเป็นหมอ มีโอกาสมากขึ้นจากการสมัครหมอ Ireland เพราะว่า
- เรื่องโควต้าเด็กอินเตอร์เรียนหมอแบบอังกฤษหายไป
- ไม่มีการวัดผลด้วย Admissions Tests อย่าง UCAT และ BMAT
- วัดผลด้วยเกรดและการสัมภาษณ์เป็นหลัก เป็นการสัมภาษณ์แบบ Panel เพื่อวัดผลเราแบบตรงไปตรงมา
- เกรดที่เรียก ในหลาย ๆ ที่ต่ำกว่าเกรดที่เรียกจาก University ที่อังกฤษ
แถมในมุมของการทำงานหลังเรียนจบ การจบหมอ Ireland สามารถฝึกงานและทำงานต่อที่ต่างประเทศได้ไม่ต่างจากอังกฤษ ส่วนการกลับมาเป็นหมอที่ไทยนั้น University ใน Ireland ก็ได้รับการรับรองจากแพทยสภา หากเราผ่านการฝึกงานและสอบใบประกอบวิชาชีพได้สำเร็จ เราก็สามารถทำงานเป็นหมอที่เมืองไทยได้
ในเรื่องของการเตรียม Application เพื่อสมัคร ก็ไม่ได้เตรียมอะไรเพิ่มมาก จริง ๆ แทบจะใช้ข้อมูลจากการสมัครหมอที่อังกฤษมาสมัครได้เลย เพราะใช้อะไร ๆ น้อยกว่าด้วย นอกจากนี้ ถ้าสมัครผ่านองค์กรที่ชื่อว่า IUMC (Irish Universities & Medical Schools Consortium) ยังสามารถสมัครหมอ Ireland ได้มากถึง 4 ที่พร้อม ๆ โดยใช้ Application ชุดเดียว ได้แก่
- Trinity College Dublin, The University of Dublin
- University College Dublin
- University College Cork
- University of Galway
และในวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 นี้เวลา 13:00 – 15:00 ทาง IUMC จะมาจัดงานสัมมนาให้ข้อมูลเกี่ยวกับหมอ Ireland ที่ Krutoo Home Education ชั้น 3 อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 1 ถนนพระรามที่ 4 ใครสนใจมาฟังเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และลงชื่อเพื่อสมัคร งานนี้แนะนำอย่างยิ่งครับ
ติดต่อสำรองที่นั่งเข้าฟังสัมมนาได้ที่ 084-320-1789 และ 083-179-9630 ได้เลยครับ