PSHE เป็นวิชาที่ถูกบรระจุอยู่ในโรงเรียนที่อังกฤษ ซึ่งเป็นวิชาที่จะช่วยให้น้องๆมีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัย และมีการเตรียมความสำหรับชีวิตและโลกของการทำงานในอนาคตได้อีกด้วย นอกเหนือจากนั้นวิชา PSHE ยังมีแนวโน้มที่จะช่วยให้น้องประสบความสำเร็จในการเรียนทางด้านวิชาการอีกด้วย
ฟังจากชื่อวิชาแล้วเป็นวิชาที่น่าเรียนและน่าสนใจมากๆเลยใช่ไหมครับ ว่าแต่วิชา PSHE มันคืออะไรกันนะ ทำไมโรงเรียนในอังกฤษถึงบังคับให้เด็กเรียนวิชานี้กัน วันนี้เรามาหาคำตอบกันครับ
PSHE ย่อมาจากอะไร
- PSHE ย่อมาจาก Personal (ส่วนตัว) Social(สังคม), Health (สุขภาพ) และ Economics(เศรษฐศาสตร์)
โรงเรียนจำเป็นต้องสอนวิชานี้ไหม?
- วิชา PSHE ถูกบังคับใช้โดยกฏหมายของอังกฤษให้เป็นวิชาบังคับในเดือนกันยายน 2020 ภายใต้ข้อบังคับของเด็กและการทำงานกับสังคม โดยกฏหมายมีบังคับการเรียนเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ (Relationships) ให้กับเด็กในช่วงประถมและมัธยมศึกษาอีกด้วย นอกจากนั้นวิชาสุขศึกษาที่เรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายและจิตใจเป็นวิชาบังคับที่ให้เด็กๆเรียนตั้งแต่ Key stage 1 ถึง 4 อีกด้วย
แล้วเราได้อะไรจากเรียน PSHE?
PSHE เป็นวิชาที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการเรียนการเรียนของเด็กๆทุกคน ทุกโรงเรียนควรจะสอนหลักสูตร PSHE เพื่อให้เด็กมีความพร้อมในอนาคต
จากงานวิจัย The economic case for PSHE in schools โดย Pro Bono Economics พบว่าวิชา PSHE ช่วยส่งเสริมให้เด็กๆเรียนรู้ได้ขึ้นด้วยลดกำเเพงของการเรียนรู้ลงอีกด้วย
แล้ววิชา PSHE เค้าสอนอะไรกันบ้างในแต่ละ Key stage เรามาดูหลักสูตรและเป้าหมายคร่าวของแต่ละ Key stage กันครับ
Key Stage 1 and 2
ในช่วง Key stage 1 และ 2 หลักสูตร PSHE จะเปิดโอกาสให้เด็กๆได้เรียนรู้ทางตรงและทางอ้อมเกี่ยวกับความเป็นอิสระ เกี่ยวกับร่างกาย และความตระหนักรู้ในสังคม ในช่วงขณะที่เด็กๆเข้าสู่ช่วงปฐมวัย ซึ่งหลักสูตรจะช่วยให้เด็กๆได้สร้างทักษะที่จำเป็นและควรจะได้รับในช่วงปรับพื้นฐานปีแรกๆหรือที่เรียกว่า (Early Years Foundation stage (EYES) เพื่อให้เด็กสามารถสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพได้อย่างดีทีสุด การมีความรับผิดชอบส่วนบุคคลและการจัดการกับความปลอดภัยของตัวเอง (personal safety) ที่จะรวมไปถึงในโลกออนไลน์อีกด้วย
นอกจากนั้นหลักสูตร PSHE จะช่วยให้เด็กๆสามารถจัดการกับร่างกายและอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่นได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย และสิ่งสุดท้ายเด็กๆจะถูกแนะนำให้รู้จักกับสังคมและโลกภายนอกที่จะเปิดโอกาสให้เด็กได้มีโอกาสแบ่งปันและช่วยเหลือสังคมอีกด้วย
โดยจะ core theme ทั้งหมด 3 theme คือ Health and Wellbeing, Relationships, Living in the wider world และในแต่ละ theme จะมีหัวข้อย่อยอีกๆด้วยครับ
ด้านล่างจะเป็นตัวอย่างของคำถามในแต่ละ Theme ครับ
Core Theme 1: Health And Wellbeing
Core Theme 2: Relationships
Core Theme 3: Living in the wider world
Key Stage 3 and 4
ในช่วงของ Key stage 3 เด็กๆจะได้สร้างความรู้และความเข้าใจ ทักษะ คุณลักษณะและคุณค่าที่เด็กจะได้รับและพัฒนาระหว่างที่อยู่ในช่วงของปฐมวัยอีกด้วย เพราะว่าในช่วงของ Key stage 3 จะเป็นช่วงที่เด็กกำลังก้าวเข้าสู่ความท้าทายในช่วงของวัยรุ่นและเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเอง โดยหลักสูตรจะเน้นการสอนให้เด็กๆได้ความรู้เกี่ยวและทักษะให้เด็กๆมีความพร้อมกับโอกาสและความท้าทายของชีวิต ซึ่งๆเด็กจะได้เรียนรู้การจัดการความสัมพันธ์ต่างๆ การใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์และการทำความรู้จักเพื่อนและการมีอิทธิพลบนสื่อต่างๆ
ในช่วงของ Key stage 4 เด็กๆจะได้เรียนรู้และทำความใจให้ลึกขึ้น ฝึกฝนและเพิ่มพูนทักษะ คุณลักษณะและคุณค่าต่างๆที่ได้เรียนในช่วง Key stage 3 ให้ดีมากยิ่งขึ้น หลักสูตร PSHE จะเป็นเครื่องมือที่สะท้อนให้เด็กๆเห็นว่าตัวเองกำลังก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว การรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองและของคนอื่นจึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆสำหรับเด็กๆในวัยนี้
โดยจะมียัง core theme ทั้งหมด 3 theme คือ Health and Wellbeing, Relationships, Living in the wider world และในแต่ละ theme จะมีหัวข้อย่อยอีกๆด้วยครับ
ด้านล่างจะเป็นตัวอย่างของคำถามในแต่ละ Theme ครับ
Core Theme 1: Health And Wellbeing
Core Theme 2: Relationships
Core Theme 3: Living in the wider world
Key Stage 5
ในและช่วงสุดท้ายของ Key stage 5 เด็กๆส่วนใหญ่จะเริ่มออกจากบ้านเป็นครั้งแระและไปเริ่มใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง ซึ่ง Programme และเนื้อหาของ Key Stage 5 จะเน้นไปในการเตรียมเด็กให้พร้อมที่จะสามารจัดการชีวิตของตัวเองในปัจจุบันและสร้างฐานของการจัดการชีวิตของตัวเองในอนาคตอีกด้วย
และใน Key stage จะเน้นให้เด็กได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะ กลยุทธ์และคุณลักษณะที่จำเป็นในการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวและสำหรับการเรียนในมหาวิทยาลัยหรือการทำงานอีกด้วย
โดยจะมียัง core theme ทั้งหมด 3 theme คือ Health and Wellbeing, Relationships, Living in the wider world และในแต่ละ theme จะมีหัวข้อย่อยอีกๆด้วยครับ
ด้านล่างจะเป็นตัวอย่างของคำถามในแต่ละ Theme ครับ
Core Theme 1: Health And Wellbeing
Core Theme 2: Relationships
Core Theme 3: Living in the wider world
นอกจากนั้นในแต่ละ Key stage และแต่ละหัวข้อของ PSHE จะมีการประเมินและความคาดหวังถึงสิ่งที่เด็กจำเป็นที่ควรจะได้ในแต่ละ Key stage อีกด้วย เช่น
ในช่วงที่เด็กเรียนจบชั้นประถม ในเรื่องของการดูแลความสัมพันธ์เด็กๆควรจะรู้เรื่อง
- มิตรภาพมีความสำคัญอย่างไรในการทำให้เรารู้สึกมีความสุขและมั่นคง และผู้คนเลือกและหาเพื่อนอย่างไร?
เด็กควรจะมีความรู้ในการสร้างมิตรภาพ การเลือกคบเพื่อนซึ่งจะช่วยให้เด็กมีความสุขและมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจอ่านเกี่ยวกับ PSHE education เพิ่ม สามารถอ่านเพิ่มได้ใน Link ด้านล่างได้เลยครับ
- https://pshe-association.org.uk/
- https://fs.hubspotusercontent00.net/hubfs/20248256/Programme%20of%20Study/PSHE%20Association%20Programme%20of%20Study%20for%20PSHE%20Education%20(Key%20stages%201%E2%80%935)%2c%20Jan%202020.pdf?hsCtaTracking=d718fa8f-77a8-445b-a64e-bb10ca9a52d8%7C90ef65f6-90ab-4e84-af7b-92884c142b27
สำหรับใครที่ต้องการเตรียมตัวหรืออยากติวเสริมเพื่อเตรียมตัวและโอกาสในการเข้ามหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนดีก็สามารถติดต่อเข้าเพื่อพูดคุยกันได้กับทีมงาน APSthai ได้เลยครับ
สาขาสีลม: 084-320-1789
สาขาหลักสี่ : 083-179-9630
Trackbacks/Pingbacks