ทำไมต้อง Study in Japan? เชื่อว่าหลายคนที่มีความชื่นชอบในภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ไม่ว่าจะผ่านการฟังเพลง การอ่านมังงะ หรือดูโดราม่าก็ตาม มีความใฝ่ฝันว่าสักครั้งในชีวิตอยากไปเรียนที่ญี่ปุ่น ทำให้ในทุก ๆ ปี ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นจุดหมายปลายทางแรก ๆ ในเอเชียที่คนไทยอยากไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ประเทศญี่ปุ่น หรืออยากไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ในทวีปเอเชียก็ตาม แต่วัฒนธรรมนั้นก็มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและมีความแตกต่างจากประเทศไทยอย่างมาก เพื่อให้คนที่สนใจจะไปร่ำเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นได้รู้ประเทศญี่ปุ่นอย่างลึกก่อนตัดสินใจไป ทาง APSthai เลยโครงการ Study in Japan ที่จะช่วยให้คำแนะนำเรื่องการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น (Study in Japan) ให้กับบุคคลที่มีความสนใจ โดยจะเขียนบทความเพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจทั้งในด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่น และการศึกษาญี่ปุ่นต่อไป

สำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่ต้องการจะศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะไปเรียนโรงเรียนภาษา ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอกก็ตาม สิ่งที่ทุกคนจะต้องพบเจอที่ยากกว่าภาษาและความรู้ที่จะนำไปใช้ศึกษาต่อก็คือ ‘มาตรฐานในแบบญี่ปุ่น’ ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้จะถูกพบตั้งแต่ขั้นตอนในการสมัครเรียน การขอวีซ่าและการเตรียมตัวก่อนเข้าประเทศในกรณีที่อยู่นานกว่า 3 เดือน

ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องของการขอเอกสารจำนวนมาก และในบางครั้งย้อนหลังไปหลายปีมากจนบางครั้งเราเองก็จำไม่ได้ และที่สำคัญ ‘ไม่นิยมเป็นไฟล์ดิจิทัล’ (ถึงแม้ว่าทั่วโลกจะสามารถใช้กันได้ก็ตาม) แต่ประเทศญี่ปุ่นมักจะขอให้ผู้สมัครส่งไปในรูปแบบของจดหมายทุกครั้ง ถ้าส่งไม่ทันวันครบกำหนดก็ถือว่าเป็นอันจบสิ้น หมดสิทธิ์สมัครเรียน หมดสิทธิ์ดำเนินการต่อ เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ควรระมัดระมังในเรื่องของการเตรียมเอกสารให้ เตรียมให้พร้อมล่วงหน้าก่อนสมัครเรียน เพราะไม่เช่นนั้นส่งไม่ทันตามที่เขากำหนด ก็จะหมดโอกาสในการเรียนต่อไปเลย ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้นนะคะ

เมื่อสมัครเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้วได้รับการตอบรับจากโรงเรียนแล้ว เมื่อโรงเรียนขอให้ยื่นเอกสารอะไรก็ตามเพื่อออกหนังสือรับรองสถานภาพพำนัก หรือ Certificate of Eligibility (COE) ก็ขอให้เราส่งเอกสารให้ครบเพราะด่านนี้หินมาก ๆ ถ้าเราพลาดไม่ตรงตามเงื่อนไขเพียงแค่นิดเดียวก็ทำให้กองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นไม่ยอมอนุมัติให้เลย จะขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเอง ผู้เขียนเคยเดินทางไปญี่ปุ่น 2 ครั้ง แต่ใช้หนังสือเดินทางคนละเล่มกัน ในตอนนั้นหาเล่มเก่าไม่เจอ ทำอย่างไรก็ไม่เจอ ทางสถาบันที่ช่วยตรวจเอกสารก่อนแจ้งว่าถ้าไม่เจอก็ไม่สามารถผ่านได้ จนแล้วจนรอดก็หาเจอจึงได้ COE มาแบบฉิวเฉียด เพราะฉะนั้นใครที่ไปญี่ปุ่นมาหลายครั้ง ให้เตรียมหนังสือเดินทางที่มีตราประทับเข้าประเทศญี่ปุ่นให้ครบ ถ้ามีหลักฐานอื่น ๆ เช่น ตั๋วเครื่องบินที่เคยไป (เท่าที่มี) ก็จะทำให้เรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นค่ะ เมื่อได้ COE มาแล้ว ก็เหมือนกับก้าวขาเข้าประเทศญี่ปุ่นไปข้างหนึ่ง หลังจากนั้นก็ขอวีซ่าที่**สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย**ได้เลย เช่นเดียวกัน ต้องเตรียมเอกสารให้ครบตามที่สถานทูตแจ้งไว้ โดยจะใช้เวลาอย่างต่ำ 5 วันในการพิจารณา

ในระหว่างนี้ ทางสถาบันจะออก Certificate of Admission หรือ COA มาให้เพื่อเป็นการยืนยันว่าได้เข้าเรียนที่นี่แล้วแน่นอน ในระหว่างนี้ให้เราเตรียมหาหอพักได้เลย โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับขั้นตอนนี้คือต้องมี ‘สังกัด’ สำหรับคนญี่ปุ่น การมี ‘สังกัด’ ที่เป็นที่เชื่อถือตามมาตรฐานญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าทำเองมีสิทธิ์ผิดพลาดจนถึงไม่ได้เข้าพัก เพราะฉะนั้นใครที่จะหาหอพักควรให้ทางสถาบันการศึกษาที่เราสังกัดอยู่หรือเอเจนท์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ช่วยรับรองให้จะดีกว่าค่ะ เพราะในขั้นตอนก่อนเข้าพัก ถ้าเราไม่มีความรู้ในภาษาญี่ปุ่นด้วยแล้วลำบากมากค่ะ ทางสถาบันการศึกษาที่เราสังกัดอยู่หรือเอเจนท์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ จะช่วยดูแลเราตั้งแต่การจอง การตรวจสอบผู้เช่า เรื่องสัญญาโดยจัดการเอกสารและอธิบายให้เรา รวมไปถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วแต่สังกัดนั้น ๆ จะดูแลเพิ่มเติมเช่น สมัครเปิดน้ำไฟแก๊สเพื่อให้ใช้ได้ตั้งแต่วันแรก และรับ-ส่งมอบกุญแจ เป็นต้น ถ้าเราทำเองแล้วล่ะก็ มีหวังไม่เข้าใจ พูดไม่รู้เรื่อง และในบางที่พักก็ไม่รับชาวต่างชาติเลยก็มีค่ะ เพราะฉะนั้นการมี ‘สังกัด’ นั้นมีความสำคัญมาก ๆ

ถ้าผ่านด่านที่หินตามที่กล่าวไปได้แล้ว ก็ขอให้สบายใจได้ว่าเราจะได้เดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นได้อย่างสบายใจ ได้เรียนในที่ ๆ อยากเรียน ได้เข้าพักในที่ ๆ อยากพักโดยไม่ต้องกังวลใจค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญแล้วอยากจะเน้นย้ำอีกครั้งก็คือ เพียงแค่เราทำตามมาตรฐานตามแบบญี่ปุ่นอย่างเข้าใจและปฏิบัติตามให้ได้ เรื่องวุ่นวายที่อาจจะเกิดก็จะไม่เกิดขึ้นค่ะ ในบทความถัดไปจะมาเขียนขั้นตอนอย่างละเอียดให้กับทุกคนอีกครั้ง ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมก็พอนะคะ