ใครที่กำลังจะขึ้นไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ผมขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ที่ได้ผ่านความยากลำบากต่าง ๆ มาจนมีวันนี้ และกำลังจะก้าวไปสู่อีกขั้นหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าความรู้สึกตอนนี้จะเป็นอย่างไร จะดีใจ จะตื่นเต้น จะเป็นกังวล หรือ จะสนุกสนาน สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ การเตรียมตัวให้ดีที่สุดเพื่อที่จะประสบความสำเร็จให้ได้เหมือนที่เคยทำได้มาแล้วในขั้นตอนต่าง ๆ ของชีวิตก่อนหน้านี้ครับ

แม้ผมจะไม่มีโอกาสได้เรียนต่างประเทศ แต่เชื่อว่าประสบการณ์การเรียนมหาวิทยาลัยของตัวเองในตอนนั้น น่าจะมีประโยชน์กับน้อง ๆ ที่กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตามบนโลกไม่มากก็น้อยครับ ผมขอสรุปไว้สัก 3 ข้อดังข้างล่างนี้ ในรายละเอียดอาจมีทั้งเรื่องที่พอเอาเป็นแบบอย่างได้ หรือ ไม่ควรทำตามสักเท่าไร ก็ขอให้พิจารณาตามสมควรนะครับ

วิชาที่ชอบ คือ วิชาที่จะทำได้ดีที่สุด

ผมเข้าเรียนในสาขาวิชา Computer Engineering แต่วิชาที่ผมชอบเรียนที่สุดคือทุกวิชาที่เกี่ยวกับ Mathematics รองลงมาคือวิชาที่เกี่ยวกับ Programming นอกนั้นคือไม่ชอบเลย

ด้วยความที่ชอบ Mathematics มาก ๆ ผมเรียนรู้และฝึกฝนเนื้อหาของ Mathematics ที่ต้องเรียนตอนปี 1 ด้วยตัวเองก่อนที่จะเปิดเทอม จนเพื่อน ๆ บอกว่าผมบ้าไปแล้วแน่ ๆ เพิ่งจบ ม.6 มาใหม่ ๆ แท้ ๆ แทนที่จะพักผ่อนให้เต็มที่ แต่สำหรับผมแล้ว Mathematics คือการพักผ่อนอย่างแท้จริง ทุกครั้งที่ได้เรียนรู้เนื้อหาใหม่ ๆ ได้ลองทำโจทย์ที่ยากขึ้นไปเรื่อย ๆ มันสนุกและรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

พอเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ผมให้เวลากับวิชาที่เกี่ยวข้องกับ Mathematics ทุกตัวเป็นอย่างมาก ผมซื้อหนังสือเพิ่มหลายเล่ม เพื่อหาโจทย์มาทำเพิ่ม ในหัวตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องเกรดเลย ผมไม่ได้อยากได้เกรด A มันไม่ได้สำคัญอะไรกับผมขนาดนั้น ผมแค่อยากทำโจทย์ให้มากขึ้น ความรู้สึกมันมีแค่นั้นจริง ๆ

สุดท้าย ผมได้เกรด A และได้คะแนนที่สูงมาก ๆ ในทุกวิชาที่เกี่ยวกับ Mathematics ทุกตัว รองลงมาคือวิชาที่เกี่ยวกับ Programming และแน่นอนว่าวิชาที่ไม่เกี่ยวกับ 2 อย่างนี้ ส่วนใหญ่แล้วผมทำคะแนนได้ค่อนข้างน่าผิดหวังทีเดียว แต่ก็เพียงพอที่จะเรียนจบได้ เพราะการสอบให้ผ่านให้ได้ ก็เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำให้สำเร็จเช่นกัน แม้จะไม่สนุกเท่าไรเลยก็ตาม

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมคงเลือกเรียนสาขาวิชา Mathematics และสำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้ายังสามารถตัดสินใจได้ ขอให้ตัดสินใจเลือกเรียนสิ่งที่ชอบ และอยากอยู่กับมันจริง ๆ เถอะครับ เราจะสนุกกับมันในทุก ๆ วัน และผลลัพธ์มันจะออกมาดีโดยที่เราไม่ต้องฝืนอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ

เรียนรู้ด้วยตัวเองให้มากที่สุด

แม้แต่วิชาที่เกี่ยวกับ Mathematics ทั้งหมดที่ผมชอบ ผมก็ไม่ได้สนุกอะไรมากมายกับการเข้าไปเรียนในห้องเรียน บ่อยครั้งที่ผมเจออาจารย์ที่สอนเก่ง สอนแล้วผมเข้าใจ ผมก็จะชอบเรียนกับอาจารย์เหล่านั้น แต่บางครั้งผมก็เจออาจารย์ที่สอนไม่รู้เรื่อง เอาจริง ๆ ผมไม่อยากจะโทษว่าเป็นความผิดของอาจารย์ มันอาจจะเป็นที่เรื่องของรูปแบบและวิธีการที่ไม่เข้ากัน ที่ทำให้ผมและเพื่อนหลาย ๆ คนไม่สามารถที่จะเรียนกับอาจารย์บางคนให้รู้เรื่องได้

ในเมื่อเรียนไม่รู้เรื่อง ถ้าจะรอดก็ต้องอ่านเอง บ่อยครั้งที่ผมโดดเรียน ไปอยู่ร้านกาแฟ คนเดียวบ้างหรือกับเพื่อน ๆ บ้าง แล้วอ่านเอง ทำโจทย์เอง เรียนรู้เอง แน่นอนว่าในวิชาที่ผมชอบอย่าง Mathematics มันไม่ได้ยากอะไรที่จะทำแบบนี้ ผมเรียนรู้ได้สนุกขึ้นกว่าอยู่ในห้องเรียนเสียด้วยซ้ำ แต่ในวิชาที่ผมไม่ชอบและเรียนไม่รู้เรื่องนั้น ผมพบว่าการอ่านเองนอกห้องเรียนเพิ่มเติม และพยายามค้นคว้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะทำให้เราเริ่มหลุดออกจากความไม่เข้าใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ลองคิดดูว่า ถ้าเราฟังอาจารย์ไม่รู้เรื่อง แล้วเราก็ทนฟังอยู่แบบนั้น โดยไม่ทำอะไรบางอย่างเพิ่มเติมด้วยตนเอง เราจะรู้เรื่องขึ้นได้หรือไม่ คำตอบก็คือไม่มีทาง แต่พอเราได้เริ่มอ่านและเรียนรู้เอง บางเรื่องกลับเข้าใจง่ายกว่าที่เราคิด บางเรื่องเราได้วิธีทำความเข้าใจในแบบของเราเอง บางเรื่องเราเข้าใจในสิ่งอาจารย์สอนมากขึ้นเพราะสิ่งที่อาจารย์สอนกับสิ่งที่เราจัดการด้วยตนเองนั้นมาบรรจบกันตรงกลาง เมื่อเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ไม่ว่าอาจารย์จะสอนรู้เรื่องหรือไม่ก็ตาม สิ่งอัศจรรย์จะเกิดขึ้นมากมาย เราจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และมีกำลังใจในการเรียนรู้มากขึ้นไปด้วย

มันอาจเป็นความผิดของอะไรสักอย่างก็ได้ ที่ทำให้เราเรียนไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นความผิดของอะไรก็ตาม เราเท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบตัวเองและพาตัวเองให้รอดไปให้ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เราก็รอดแน่นอนครับ

คบเพื่อนที่ดี

เพื่อนที่ดีคือคนที่จะพาเรารอดไปด้วยกัน ในการอ่านหนังสือด้วยตัวเองในหลาย ๆ ครั้ง อ่านยังไงเราก็ไม่เข้าใจ แต่พอได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนที่กำลังพยายามอยู่เช่นกัน เรากลับมีมุมมองที่กว้างขึ้นและเข้าใจอะไร ๆ ได้มากขึ้น

ผมมีเพื่อนที่ชอบ Mathematics เหมือนกัน และมีนิสัยการเรียนคล้าย ๆ กันคือ ชอบหาเรื่องใส่ตัว หาโจทย์ยาก ๆ มาทำเพิ่ม บางข้อผมทำแล้วติดขัด พอเพื่อนแบ่งปันมุมมองของตัวเอง ผมก็ทำข้อนั้นได้ ในทางกลับกัน พอเพื่อนทำบางข้อแล้วไปต่อไม่ได้ เมื่อผมได้ลองแสดงความคิดเห็นของตัวเองบ้าง สุดท้ายเราก็ร่วมแก้ปัญหาข้อนั้นไปด้วยกันได้สำเร็จ

เพื่อนที่ดีที่ชอบเรื่องเดียวกับเรา ที่มุ่งมั่นเหมือนเรา ที่ตั้งใจแล้วว่าจะต้องรอดไปให้ได้เหมือนกับที่เราเป็น จะเป็นกลุ่มคนที่คอยส่งเสริมกันและกัน ทำให้เส้นทางอันยากลำบากที่เรากำลังเดินอยู่นั้น ไม่ได้อ้างว้างหรือต้องเดินอยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นมันจึงสำคัญมาก ๆ ว่า เราเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่จะมีโอกาสให้เราได้เจอเพื่อนแบบนี้ไหม เขาได้คัดคนที่ชอบเรื่องเดียวกัน มีความมุ่งมั่นพยายามในระดับสูงเหมือนกัน ให้เข้ามาอยู่ด้วยกันไหม ถ้าเรามีโอกาสได้อยู่ในที่แบบนี้ โอกาสประสบความสำเร็จไปด้วยกันก็จะสูงมาก ๆ ทีเดียว

นอกจากนี้ การมีเพื่อนที่ดีให้ได้ร่วมแบ่งปันแนวคิดต่าง ๆ จะทำให้เราพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น จุดสูงสุดของการเรียนรู้ คือการที่เราสามารถสอนหรือแบ่งปันสิ่งที่เรามีให้กับคนอื่นได้ เพราะเมื่อไรที่เราแบ่งปันหรือสอนคนอื่นได้ นั่นแปลว่าเราเข้าใจสิ่งนั้นแล้วจริง ๆ

แม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเล่านั้นมันไม่เคยเปลี่ยนไป การทำสิ่งที่ชอบมันง่ายกว่าและสนุกกว่าการทำสิ่งที่ฝืนใจมากนัก การรับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้และการเรียนรู้ด้วยตัวเองให้เป็นนั้น เป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์กับทุกยุคสมัย และสุดท้ายเพื่อนที่ดี สังคมที่ดี คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่จะไปถึงเป้าหมาย แต่เป็นทุกคนที่จะยิ่งใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน

ก็ขอฝากเป็นข้อคิดและกำลังใจไว้ เพื่อให้ทุกคนที่กำลังจะเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่รอด แต่ประสบความสำเร็จได้สูงสุดอย่างที่ฝันเอาไว้นะครับ