หลาย ๆ คนคงเห็นข่าวกันแล้ว ว่าตั้งแต่รอบปี 2024/2025 การสอบ Admissions Tests ในหลาย ๆ คอร์ส อย่างเช่น BMAT, ENGAA, NSAA, TMUA จะถูกยกเลิก และยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าจะมีอะไรเข้ามาแทนที่

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ น่าจะเป็นเรื่องปกติสำหรับแวดวงการศึกษา ที่ทุกอย่างต้องถูกพัฒนาไปเรื่อย ๆ เพื่อรองรับความเฟ้อของเกรดและผลการเรียนที่มีแต่จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ยกตัวอย่างเช่น ก่อนหน้าที่จะมีเกรด A* ในระดับ A-level อย่างทุกวันนี้ เมื่อก่อนนี้หลักสูตร A-level มีเกรดสูงสุดเพียงแค่เกรด A เท่านั้น แต่เหตุผลที่ต้องมีการสร้างเกรด A* ขึ้นมา ก็เพื่อรองรับความเฟ้อของเกรดและคะแนน ทำให้เด็กที่สอบได้คะแนนสูงมาก ๆ มีโอกาสได้เกรดที่สูงกว่า A เพื่อให้เกิดความโดดเด่นขึ้นมา

หรืออย่างสมัยก่อน การสอบ IGCSE และ GCSE นั้น เราจะเห็นแต่ระบบเกรดที่เป็นตัวอักษร คือ A*, A, B, C ไปเรื่อย ๆ แต่ปัจจุบันนี้ใน UK เปลี่ยนเกรด GCSE เป็นระบบตัวเลขหมดแล้ว ในขณะที่ International Exam Board นั้น ก็เหลืออีกไม่มากที่ยังเป็นระบบตัวอักษรอยู่ และระบบตัวเลขนี้เองที่มีการสร้างเกรด 9 ขึ้นมา ซึ่งถือว่าสูงกว่า A* ในระบบเดิม (แม้ว่าเกรด 8 และเกรด 9 หากมองคร่าว ๆ คือ A* เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้ว 8 ถือว่าต่ำกว่า A* นิดหน่อย และ 9 ถือว่าสูงกว่า A*) นี่ก็คงเป็นเหตุผลเดียวกันว่า ความเก่งของเด็กเก่งนั้น ต้องถูกแบ่งให้ละเอียดขึ้นไปอีก

แม้กระทั่งเรื่องราวของ Admissions Tests ก็เหมือนกัน ในการพูดคุยกับ Top Uni ในครั้งหนึ่งที่ทีมงานของเราไปที่ UK เราได้ถามว่าทำไปเขาต้องใช้ Admissions Tests ด้วย ในเมื่อเด็ก ๆ ก็มีผลสอบ IGCSE และผล Predicted Grade ของ A-level ในการสมัครเรียน คำตอบที่ได้ก็คือ IGCSE นั้นเป็นความรู้เพียงระดับทั่วไป ส่วน Predicted Grade จากโรงเรียนนั้นก็เชื่อถือไม่ได้ วิธีเดียวที่เขาจะรู้ได้ว่าใครใช่หรือไม่ใช่ ก็คือต้องใช้ Admissions Tests ที่เขาสร้างกันขึ้นมาเองเป็นตัววัด

คำถามคือ แล้วในเมื่อเขาเชื่อถือใน Admissions Tests ขนาดนั้น แล้วทำไมถึงต้องยกเลิก

คำตอบหนึ่งที่เป็นไปได้คือ เขาอาจจะรู้สึกว่ามันเริ่มเชื่อถือไม่ได้ มันเริ่มไม่เที่ยงตรง มันเริ่มคัดเลือกได้ไม่เด็ดขาด ในการที่จะคัดสรรเอาคนที่ใช่จริง ๆ เข้ามา

และนั่นจะนำไปสู่คำตอบของคำถามถัดไปว่า ยกเลิกไปแล้ว จะเอาอะไรมาแทนไหม

แน่นอนว่าคำตอบคือ ต้องมีการเอาอย่างอื่นเข้ามาแทน อาจจะเป็น Admissions Tests ที่ยากขึ้น เข้มข้นขึ้น และวัดผลได้อย่างแม่นยำขึ้นว่าใครใช่หรือไม่ใช่สำหรับคอร์สที่จะสมัครเรียน หรือบางทีอาจเป็นวิธีการคัดเลือกแบบใหม่ที่ใช้แทนการทำข้อสอบ Admissions Tests ก็เป็นได้ ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน บอกได้เลยว่า โหดขึ้นแน่นอน

การแข่งขันจะสูงมากขึ้นไปอีก ทุกวันนี้สาขาวิชาที่เรียกเกรด A*A*A* ตั้งแต่ในหน้าเว็บไซต์ก็มีให้เห็นแล้ว เราจึงต้องเตรียมตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกรดที่ต้องทำให้ดีตั้งแต่ต้น หรือเรื่องความชัดเจนในตัวเอง ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ในรูปแบบของการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ เช่น การทำกิจกรรม การฝึกงาน การไป Summer School การอ่านหนังสือ การประกวดแข่งขันต่าง ๆ หรืออะไรก็ตาม ที่จะทำให้ Top Uni เหล่านี้เชื่อได้ว่าเราคือคนที่ใช่สำหรับเขาจริง ๆ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมนะครับ ไม่ว่าการแข่งขันจะสูงขึ้นแค่ไหน คนที่ใช่จะยังได้ไปต่อเสมอครับ