Find a job you love, and you’ll never work a day in your life

เราเคยถามตัวเองไหมครับ ว่าอะไรคือ Passion ของเรา อะไรคือสิ่งที่เราอยากทำเมื่อเราโตขึ้น บ่อยครั้งที่เราได้ยินว่า ถ้าเราเลือกทำตาม Passion หรือสิ่งที่เราชอบแล้วจะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ อย่างประโยคสุด Classic ที่บอกว่า Find a job you love, and you’ll never work a day in your life. ถ้าเราหางานที่เรารักเจอเราจะไม่ต้องทำงานอีกเลยทั้งชีวิต แต่เชื่อไหมครับว่า มีหลายคนมากๆที่ไม่รู้ว่า Passion ของตัวเองคืออะไร

” งานวิจัยจาก Pitman training โชว์ว่าเด็กในช่วงอายุ 16 – 24 ในประเทศอังกฤษมากถึง 84 % ไม่รู้วิธีที่เอาสิ่งที่เป็น Passion ของตัวเองไปทำเป็นอาชีพ และอีก 49 % มีความเชื่อว่าถ้าไม่มี qualification จะทำให้ไม่มีโอกาสในการประสบความสำเร็จในอาชีพนั้น ทำให้บ่อยครั้งเราจะเห็นหลายคนเลือกอาชีพหรือเลือกเรียนโดยคำนึงจากรายได้หรือความต้องการของสังคม เพื่อน หรือครอบครัว มากกว่าความชอบและความสามารถตัวเองเลย มันไม่แปลกเลยครับ ที่จะเห็นคนกลุ่มนี้ลาออก, เปลี่ยนงาน หรือไม่มีความสุขกับงานที่ตัวเองทำอยู่

” งานวิจัยจาก Deloitte โชว์ว่า 64 % ของแรงงานใน US ไม่ได้รู้สึก passionate กับงานที่ตัวเองทำ และ มากถึง 60 % ที่ไม่ได้มองหาความท้าทายในงานที่ตัวเองทำ”

มันจะดีกว่าไหมครับว่า ถ้างานที่เราทำคือสิ่งที่เรามี Passion, สิ่งที่เราตื่นเต้นและเรายังได้ค่าตอบแทนจากสิ่งที่เราทำอีกด้วย

วันนี้เรา 6 คำแนะนำที่จะมาช่วยหา Passion ของพวกเราให้เจอกันครับ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักคำว่า Passion กันก่อนครับ

Passion refers to a strong feeling of enthusiasm or excitement either for something or about doing something

Passion จะหมายถึง การที่เรามีความรู้สึกกระตือรือร้นและตื่นเต้นมากๆที่จะทำอะไรบางอย่าง ซึ่ง Passion มักจะเป็นสิ่งที่เราสนใจ มีความหมายต่อชีวิตเราและมักจะทำให้เรามีความสุขเมื่อได้ทำมัน

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นคนที่ความสนใจและชอบถ่ายรูป เราก็จะพกกล้องถ่ายรูปไปในทุกที่ที่เราไป ตั้งแต่ตื่นจนกระทั่งเราเข้านอน อันนี้คือตัวอย่างของคนที่มี Passion.

การที่เรามี Passion ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะทำให้เรามีแรงบันดาลใจที่เรียนรู้และพัฒนาตัวเองทักษะ ความรู้และความสามารถของเราอยู่สม่ำเสมอ.

Passion ที่ดียังทำให้เราไม่รู้สึกย่อท้อหรือน้อยใจเวลาที่ต้องเจอกับปัญหายากๆ เราจะมองปัญหาเป็นความท้าทายและโอกาสในการเรียนรู้เสมอๆ

เรามาเริ่มกันที่ข้อแรกกันดีกว่าครับ

1. การเขียน “Create your personal vision statement”

Personal vision statement จะเป็นการเขียนเกี่ยวกับ คุณค่าของตัวเรา(Value), จุดแข็ง(Strength) และเป้าหมายของเรา(Goal) ซึ่งการเขียน personal vision จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของชีวิตและทำให้เราเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่มีความสำคัญกับเรา อีกทั้งยังเป็นส่วนช่วยในการกำหนด Long term และ Short term ของเราได้อีกด้วย

การเขียน Personal vision statement ที่ดี จะรวมสิ่งที่เรารัก ชอบ สิ่งที่เราให้คุณค่าอะไร, แต่ถ้าใครคิดไม่ออกอาจจะลองมองจาก มองจากปัญหาในสังคมประกอบรวมกับความถนัดของเรา ว่าเราสามารถจะแก้ปัญหาอะไรในสังคมได้บ้าง แล้วนำสิ่งนั้นมาตั้งเป็นเป้าหมายของเรา.

การที่เรามี Personal vision statement ที่ดีจะเป็นเสมือน Guideline ที่ช่วยให้เราตัดสินใจเรื่องต่างๆได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

2. การทำ List of things that you love to do

การทำ list ของสิ่งที่เรารักและมีความสุขที่จะทำ โดยอ้างอิงจากจากสิ่งที่เราเคยทำเช่น

  • กิจกรรมที่เราชอบทำในเวลาว่าง อะไรคือ Hobbies ของเราคืออะไร
  • หนังสือแบบไหนที่เราชอบอ่าน
  • คนส่วนใหญ่มักจะปรึกษาเราเรื่องอะไร อะไรคือสิ่งที่เราชอบหยิบมาคุยกับคนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ มันอาจจะเป็นจุดแข็งหรือเป็นสิ่งเราสนใจของเรามากๆก็ได้
  • ลองย้อนกลับไปในวัยเด็ก ประสบการณ์อะไรที่น่าจดจำที่สุด สิ่งอะไรที่เราชอบทำและเรายังทำมันอยู่

การทำ List ของสิ่งที่เรารักหรือชอบท จะช่วยทำให้เราหา Passion ของเราได้ง่ายขึ้นอีกทั้งยังเป็นการตัดสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องทำเพื่อให้เรามีเวลาไป focus ในสิ่งที่เราอยากทำมากขึ้น

3. Do a research in everything relate to your passion

  • การค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เป็น Passion หรือความสนใจของเราให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ, การศึกษาหาข้อมูลจาก website หรือ ดู YouTube
  • การถามจากคนที่ทำงานอยู่ในวงการนี้ เช่น ทักษะหรือ Skills อะไรบ้างที่เราต้องมี, สภาพแวดล้อมของงานนี้เป็นแบบไหน, (Salary) หรือรายได้เฉลี่ยคือเท่าไหร่, Future trend ของอาชีพ, เค้าเริ่มทำงานนี้ได้ยังหรือการขอคำแนะนำในการเริ่มต้นอาชีพ
  • ถ้าใครอยากเห็นภาพมากขึ้น การลองไปฝึกงานหรือการทำ Work experience ในอาชีพนั้นจริงๆก็จะช่วยให้เรา เห็นภาพรวมของอาชีพนั้นได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

การที่เราหาค้นคว้าหาความรู้ให้เพียงพอ จะทำให้เราตัดสินใจถูกต้องมากยิ่งขึ้น

4. การถามคำถามที่เป็นเชิงสมมติ (Hypotheticals questions)

การถามคำถามสมมติหรือสถานต่างๆจะช่วยให้เราพิจารณาถึงสิ่งที่เราให้ความสำคัญและความสนใจมากที่สุด

ยกตัวอย่างคำถามเช่น

  • ถ้าเรามีเงินเพียงพอที่จะใช้แล้วทั้งชีวิต อะไรคือสิ่งที่เราเลือกที่จะทำกับเวลาที่เหลือ?
  • อะไรคือความสำเร็จที่คุณอยากให้คนอื่นจดจำมากที่สุด?
  • ถ้าคุณสามารถบอกคนอื่นได้ 1 อย่าง สิ่งนั้นคืออะไร?
  • อะไรหรือใครเป็นแรงบันดาลใจให้คุณและทำไม

คำถามสมมติจะช่วยเปิดมุมมองและขยายขอบความคิดของเราออกไป ทำให้เราได้มีโอกาสคิดในมุมที่ต่างออกไปซึ่งช่วยให้เราได้ข้อมูลที่สมบรูณ์และครบถ้วนมากยิ่งขึ้น

5. Take an action and practice

หลังจากการเขียน Personal vision และการ Research ที่ยืนยันว่าสิ่งที่เราเลือกคือ passion ของเราจริงๆ การลงมือทำเป็นส่วนที่สำคัญที่ช่วยยืนยันว่า อาชีพหรือวิชาเรียนที่เราเลือก คือ passion ของเราจริงๆ นอกจากนั้น การฝึกฝนทักษะ skills และการหาความรู้อย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราประสบความสำเร็จในอนาคตและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ อีกด้วย

อย่างที่เราเคยได้ยินว่า Practice makes perfect หรือ10,000 hours rule กฏของการทำอะไรสักอย่างให้ครบ 10,000 ชม จะทำให้เรากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น.

6. การเขียน Journal ถึงสิ่งที่เราทำ

สุดท้ายการที่เราตั้งเป้าหมายและลงมือทำอย่างต่อเนื่องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การเขียน journal ติดตามและบันทึกสิ่งที่เราทำในแต่ละวัน สิ่งที่เราทำได้ดีและไม่ดี อะไรคือสิ่งที่เราต้องปรับปรุงเพื่อทำให้เราทำได้ดีขึ้นในครั้งถัดไปและประสบความสำเร็จสูงสุดในอนาคต

การเขียน Journal ที่ดีและมีระเบียบยังช่วยให้เราจดจ่อกับเป้าหมายที่เราทำและพัฒนา Planning และ Organization skills ได้อีกด้วย

สำหรับผมคิดว่า การหา Passion ของแต่ละคนอาจจะใช้เวลาไม่เท่ากัน บางคนอาจจะโชคดี ที่ค้นพบ Passion และประสบความสำเร็จตั้งแต่เนิ่นๆ แต่บางคนใช้เวลาหลายปีกว่าจะเจอ Passion ของตัวเอง แต่สิ่งที่ทุกคนๆทำได้ก็คืออย่ายอมแพ้และตั้งใจทำให้เต็มที่ในทุกๆอย่างที่เราอยากทำ ทำตามเสียงหัวใจตัวเอง โดยที่เราไม่เอาความคิดเห็นของคนอื่นเข้ามาเป็นส่วนในการตัดสินใจและตั้งใจที่จะเป็นตัวเราในแบบที่ดีที่สุดกันดีกว่าครับ

ก่อนที่จะจากกันไปวันนี้ผมมีคำคมจาก Mark twain มาฝากกันครับ

“ The two most important moments in your life are the day you are born and the day you find out why “

เราจะมี 2 วันที่สำคัญที่สุดในชีวิต นั่นก็คือวันที่เราเกิดและอีกวันก็คือวันที่เรารู้ว่าเราเกิดมาทำไม

คนเราส่วนมากจะรู้ว่าเราเกิดมาทำไมก็ต่อเมื่อเราเจอ Passion, เป้าหมายและสิ่งที่เราอยากทำที่ชัดเจนแล้วนั่นเองครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังตามหา Passion อยู่นะครับ