หลายคนอาจจะรู้จักกับหลักสูตร IB กันมาบ้างแล้ว แต่ว่าอาจจะยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหลักสูตรนี้อยู่บ้าง ซึ่งความเข้าใจผิดที่พบเห็นบ่อยที่สุดคือเชื่อกันว่าหลักสูตรนี้ดีที่สุด เพราะสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ทั่วโลก ที่จริงแล้วในแต่ละหลักสูตรก็มีข้อดีและข้อที่ต้องตรวจสอบว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่ เพราะไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะเหมาะสมกับทุกหลักสูตร เพราะฉะนั้นการเลือกหลักสูตรให้เหมาะสมกับเด็กก็จะยิ่งเพิ่มศักยภาพให้กับเขาได้อีกวิธีหนึ่ง ในทางกลับกันถ้าเด็กได้เรียนในหลักสูตรที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง ก็ไม่สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ อาจส่งผลทำให้ต้องเสียเวลาและเสียโอกาส

ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จในการเรียนในหลักสูตร IB ต้องรู้ก่อนว่าหลักสูตรนี้ต้องการคนแบบไหน แล้วเรามีคุณสมบัติเหล่านี้หรือยัง? มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

ต้องมีความรู้ที่กว้าง

หลักสูตร IB หรือ The International Baccalaureate จะเริ่มจาก Primary Years Programme หรือ PYP และในระดับต่อมาคือ Middle Years Programme หรือ MYP และที่เป็นช่วงที่สำคัญคือ Diploma Programme หรือ DP ซึ่งเป็นช่วงก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ด้วยหลักสูตรที่เน้นให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเองให้ได้เพื่อให้เกิด lifelong journey of learning และให้เรียนรู้ในห้องเรียนไปพร้อมกับโลกข้างนอกแล้วนั้น เด็กจะมีความรู้ที่ทั้งกว้างและลึกไปพร้อมกัน

โดยจุดที่สำคัญของหลักสูตรนี้คือในช่วง Diploma Programme หรือ DP หลักสูตรออกแบบให้ผู้เรียนเลือก 1 วิชาจาก 6 กลุ่มวิชา ดังนี้

Group 1 – Studies in language and literature

Language A: literature

Language A: language and literature

Literature and performance

Group 2 – Language acquisition

Language B

Language ab initio

Classical languages

Group 3 – Individuals and societies

  • Business and management
  • Economics
  • Geography
  • History
  • Information technology in a global society
  • Philosophy
  • Psychology
  • Social and cultural anthropology
  • World religions (SL only)
  • Environmental systems and societies (also group 4)

Group 4 – Sciences

  • Biology
  • Chemistry
  • Design technology
  • Environmental systems and societies
  • Physics
  • Computer science
  • Sports, exercise and health science (SL only)

Group 5 – Mathematics

  • Mathematical studies SL
  • Further Mathematics HL
  • Mathematics SL
  • Mathematics HL

Group 6 – The arts

  • Music
  • Theatre
  • Visual arts
  • Dance
  • Film
  • Literature and performance (also group 1)

โดยในแต่ละวิชาสามารถเลือกให้เป็มกลุ่มวิชาใน Higher Level หรือ Standard Level ก็ได้ โดยเลือกได้สูงสุดกลุ่มละ 3 วิชา วิชาที่อยู่ใน Higher Level ควรเป็นวิชาที่ผู้เรียนสนใจจะไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย

มีความสามารถทางภาษาต่างประเทศ

นอกจากความสามารถทางวิชาการแล้ว ผู้เรียนจะต้องเลือกภาษา 2 ภาษาด้วยจาก 6 กลุ่มวิชาด้านบนนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นผู้เรียนที่มีความสนใจในด้านภาษาอยู่แล้ว และ/หรืออาจจะเรียนภาษาต่างประเทศอยู่แล้ว เช่น Fench, Mandarin และ Spain เป็นต้น ก็จะยิ่งช่วยเสริมให้ผู้เรียนมีพื้นฐานที่ดีก่อนที่จะเข้าเรียนในระดับ DP ค่ะ หลายครั้งเราพบว่าเด็กไม่สนใจด้านภาษาเลย สนใจแต่วิชาที่เน้น Academic เท่านั้น เวลาสอบจึงทำให้คะแนนในส่วนภาษาดึงเกรดวิชาอื่นให้แย่ลงด้วย ถ้าเราลองประเมินดูแล้วว่าภาษาจะเป็นจุดอ่อนของเรา การเรียนต่อในหลักสูตร DP อาจจะไม่เหมาะกับเราค่ะ

มี Critical Thinking ผ่านการทำ Independent Research

เมื่อมีความสามารถทางด้านวิชาการและภาษาแล้ว ผู้เรียนจะต้องสามารถต่อยอดความรู้ที่ตัวเองสนใจผ่านการทำงานวิจัยและเขียนผลงานออกมาได้ โดยที่ผู้เรียนจะต้องทำผลงาน ดังนี้ด้วย

The extended essay

โรงเรียนจะให้ผู้เรียนไปค้นคว้าในสิ่งที่ตัวเองสนใจผ่านการทำ independent research โดยที่จะต้องมีความรู้ลีกรู้จริงในหัวข้อที่ตัวเองสนใจด้วย อีกทั้งกรอบแนวคิดที่นำมาใช้ในงานวิจัยจะต้องเกี่ยวข้อกับวิชาที่ตัวเองเรียนอย่างน้อย 2 วิชา การทำ The extended essay เป็นเหมือนงานวิจัยย่อม ๆ ที่ให้เด็กการคิดวิเคราะห์และร้อยเรียงออกมาเป็นภาษาที่ดีผ่านการเขียน

Theory of knowledge

เมื่อต้องทำ independent research แล้ว ผู้เรียนก็จะต้องมีกรอบความคิดที่จะใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การเรียนรู้ Theory of knowledge จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เหมาะสมกับงานวิจัยของตัวเอง เป็นการฝึก Critical Thinking เพราะฉะนั้นผู้เรียนจะฝึกหาข้อมูลด้วยตัวเอง ต้องอ่านหนังสือเยอะมาก และต้องวิเคราะห์เยอะมาก เพื่อให้ชุดข้อมูลที่มากพอจะนำมาใช้ในงานวิจัยของตนเอง

มีความตระหนักถึงสังคมภายนอก

นอกจากจะเป็นคนเก่งแล้ว จะต้องสนใจโลกภายนอกด้วย โดยผู้เรียนจะต้องทำกิจกรรมที่เรียกว่า Creativity, action, service หรือ CAS ในส่วนนี้ผู้เรียนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มทักษะทานด้าน arts และ creative thinking ไปทำกิจกรรมที่ได้ออกแรงเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง และต้องไม่ลืมว่าสังคมรอบข้างเรามีอะไรบ้างที่ต้องช่วยเหลือ ให้ทำกิจกรรมที่จะช่วยสังคมด้วย

เป็นอย่างไรบ้างคะ เมื่อลองดูจาก Checklist ด้านบนแล้ว เรามีพฤติกรรม ความสนใจและความสามารถที่เหมาะสมกับหลักสูตร IB หรือไม่? ถ้าลองอ่านแล้วยังไม่สามารถตัดสินใจได้ สามารถปรึกษาทีมงาน APSthai ได้นะคะ ทางเรายินดีให้คะแนะนำค่ะ