Top University ที่ UK มีเป้าหมายในการพัฒนา Skills ของคนที่ไปเรียน ในทุก ๆ ด้านให้ไปถึงระดับสูงสุด ซึ่งความเชื่อที่หนักแน่นที่สุดของเขาคือ การที่คน ๆ หนึ่งจะถูกพัฒนา Skills จนไปถึงระดับสูงสุดได้นั้น คน ๆ นั้นจะต้องเลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเอง Born to be มี Passion และตรงกับเป้าหมายชีวิตของตัวเอง
เพราะฉะนั้น เพื่อพิจารณาว่าคน ๆ หนึ่งจะมีคุณสมบัติตรงกับสิ่งที่เขาต้องการหรือไม่ เขาก็จะพิจารณาจาก 2 อย่างหลัก ๆ อย่างแรก คือ Profile ต่าง ๆ ว่าเราเหมาะสมกับด้านนั้นหรือไม่ โดยพิจารณาผ่าน Personal Statement, Reference, Admissions Tests และ Interview ส่วนอย่างที่สองก็คือเรื่องของผลการเรียน ว่ามีพื้นฐานดีตั้งแต่ IGCSE หรือไม่ มีผลงานล่าสุดในระดับ AS-level เป็นอย่างไร (ถ้าเป็นคนที่มีโอกาสได้สอบ AS-level) และอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมาก ๆ ก็คือ โรงเรียนคาดการณ์ว่าคน ๆ นี้จะเรียนจบด้วยเกรดเท่าไร ซึ่งสิ่งนี้เรียกว่า Predicted Grade
Predicted Grade ที่สูง จะเปิดโอกาสให้เราเลือก University ที่ต้องการเกรด A-level/IB สูง ๆ ได้ แต่หาก Predicted Grade ออกมาไม่สูง โอกาสเลือก University ดี ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Top University ก็จะมีน้อยลง เพราะเกือบทุกครั้งไป ถ้าเรายื่น Predicted Grade ที่ต่ำกว่าที่เขาต้องการ เขาจะปฏิเสธเราทันที
ใครที่เพิ่งทราบ Predicted Grade จากโรงเรียน และไปเจรจาต่อรองมาแล้ว และปรากฎว่าอาจไม่ได้ Predicted Grade สูงตามที่ต้องการ อาจรู้สึกหมดหวังว่าคงไม่มีโอกาสได้เรียน Top University แล้ว
อย่างไรก็ดี โอกาสเข้า Top University ยังมีอยู่ มี 4 วิธีที่มีความเป็นไปได้ ณ เวลานี้
วิธีที่ 1 ทำเกรดให้ดีที่สุด แล้วไปลุ้นตอน Clearing
แม้ Predicted Grade เราจะไม่สูง จนเราไม่สามารถเลือก University ที่ต้องการตอนยื่น UCAS Application ได้ แต่ระบบของ UK ก็ยังเปิดโอกาสให้คนที่เกรดตอนจบ A-level/IB ออกมาสูงมาก ๆ สามารถติดต่อไปยัง University ที่ต้องการได้ ในวันที่เกรดตอนจบออก เพื่อดูว่าเขาสนใจจะพิจารณาเราหรือไม่ ซึ่งกระบวนการตรงนี้ เรียกว่าการทำ Clearing
เมื่อก่อนนี้ เรามักเข้าใจว่า Clearing แปลว่า เราไม่ได้ University ที่เราต้องการ เราจึงติดต่อไปยัง University รอง ๆ ที่ยังมีที่เหลือ แต่ในปัจจุบันนี้ความหมายของ Clearing นั้นสามารถเป็นในเชิงบวกได้ด้วย ก็คือ เราได้เกรดสูงกว่าที่คาดไว้ และมองหา Top University ที่ยังมีที่เหลือให้กับเรา
ยกตัวอย่างเช่น เราอาจได้ Predicted Grade ABB จนเราเลือก King’s College Londonในสาขาวิชาที่ต้องการไม่ได้ตอนทำ UCAS แต่พอเกรด A-level จริง ๆ เราออกมาเป็น A*A*A แล้วเผอิญ King’s College London ในสาขาวิชาที่เราต้องการ ยังมีที่เหลือ เราสามารถติดต่อเขาไป และถ้าเขายินดีพิจารณา สุดท้าย เราก็จะได้เรียนที่ King’s College London แม้เราจะได้ Predicted Grade ตอนแรกต่ำกว่าที่เขาต้องการก็ตาม
วิธีนี้ เรื่องที่เราควบคุมได้คือ ทำเกรดของเราให้ดีที่สุด แต่เรื่องที่เราอาจควบคุมไม่ได้คือ Top University ที่เราต้องการ จะยังมีที่เหลือหรือไม่ และโดยปกติแล้ว Top ที่สุด 5 ที่อย่าง Oxford, Cambridge, LSE, Imperial, UCL นั้น จะไม่เหลือที่ให้เราทำ Clearing ได้อยู่ดี ไม่ว่าเกรดเราจะดีแค่ไหน และนั่นเองที่นำไปสู่วิธีที่ 2
วิธีที่ 2 ทำเกรดให้ดีที่สุด แล้วทำ Gap Year เก็บ Profile เพิ่มยื่น UCAS ใหม่อีกรอบ
เราสามารถสมัคร UCAS อีกรอบหนึ่งได้เพื่อไปเรียนต่อในปีถัดไป และหากเราจบ A-level หรือ IB มาด้วยเกรดที่ดีมาก ๆ ในการสมัคร UCAS ใหม่รอบนี้ เราจะสมัครในฐานะของคนที่เรียนจบแล้ว มีเกรด A-level/IB แล้ว และถ้ามันสูงพอ ประกอบกับมี Profile ที่ดี แม้แต่ Top University ระดับ Oxbridge ก็มีโอกาสที่จะพิจารณาเราได้
สำหรับวิธีนี้ เงื่อนไขที่จะทำสำเร็จมี 3 ข้อ
- ข้อแรก เราต้องจบด้วยเกรดที่ดีมากจริง ๆ เช่นได้ A*A*A* ขึ้นไป หรือ IB ได้ใกล้เคียง 45 มาก ๆ เพื่อให้เรามี Profile ที่ดูดี และน่าสนใจกว่าผู้สมัครรุ่นปกติที่ยื่นเกรดได้แค่แบบ Predicted Grade เท่านั้น
- ข้อสอง เราต้อง Upgrade Personal Statement และ Reference ของเรา ให้มี Profile ที่โดดเด่น และทำให้ Top University เห็นได้ว่า Gap Year ของเรานั้น เป็น Gap Year ที่เรามี Skills ที่มากขึ้น มี Experience ที่มากขึ้น และมีคุณสมบัติเหมาะสมครบถ้วนที่เขาจะรับเราเข้าไปจริง ๆ
- ข้อสาม ต้องสมัครในสาขาวิชาที่ไม่มีปัญหากับ Gap Year ยกตัวอย่างเช่น สาขาวิชา Mathematics ในหลาย ๆ University จะไม่รับคนที่ Gap Year เพราะเขากลัวว่าเด็กจะมี Skills การคำนวณที่ด้อยลงจากปีที่เว้นว่างจากการเรียน เป็นต้น อย่างไรก็ดี สาขาวิชาที่คิดแบบนี้ มีน้อยมาก ๆ
วิธีนี้ มีข้อที่อาจติดใจบางคนแค่เรื่องเดียวคือ เราจะไปเรียนระดับ University ช้ากว่าเดิม 1 ปี สำหรับความเห็นของผมนั้น 1 ปีเมื่อเทียบกับทั้งชีวิต ถือว่าสั้นยิ่งนัก หากหยุดพักแล้วกระโดดได้สูงขึ้น ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละครอบครัวครับ เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น
แน่นอนว่า สำหรับหลาย ๆ คนนั้นก็ไม่ได้อยากจะเสียเวลาเพิ่มอีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นวิธีที่ 3 อาจเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด
วิธีที่ 3 Bachelor เรียนที่ไหนก็ได้ แต่ต้องได้ First Honour แล้วไปเข้า Master ใน Top University
ชีวิตเราไม่ได้จบที่ Bachelor Degree การเรียนจบ Bachelor Degree เราจะได้ Learning Skills ครบถ้วน 100% แต่ชีวิตยุคปัจจุบันนี้ถ้าจะไปได้ไกล สร้างสรรค์อะไรได้มากมาย Skills ในการ Innovate สิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นที่จะได้จากการเรียน Master Degree นั้น เป็นสิ่งที่จำเป็น
ไม่ว่า Bachelor Degree เราจะได้ที่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเราตั้งใจเรียนให้ดี ทำ First Honour ให้ได้ และเก็บ Profile ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะเรียนต่อเอาไว้ให้มาก ๆ พร้อมทั้งคิดหัวข้อ Research เอาไว้ เราสามารถสมัครเข้า Master Degree ใน Top University ได้ไม่ยากเลย หลาย ๆ คนใช้แผนนี้แล้วประสบความสำเร็จมาก ๆ เสียด้วย เพราะ University ที่เข้าไปก่อนตอน Bachelor Degree นั้น เป็นที่ที่เหมาะสมกับเราแล้วจริง ๆ แม้มันจะยังไม่ Top มากก็ตาม
ใครจะเลือกวิธีนี้ ขอแค่เลือก Choice ใน UCAS ให้ดีที่สุด อย่างน้อยให้เป็นที่ที่เราอยากไปอยู่ อยากไปเรียน อยากไปทำให้ดีที่สุด ยังไม่ต้องกังวลว่ามันไม่ใช่ Top University อย่างที่เราต้องการ จำเอาไว้ว่า เป้าหมายของเราต่อจากนี้ คือเป้าหมายระยะไกล เราจะไป Top University กันตอน Master หรือ Doctorate Degree ให้ได้นั่นเอง
อย่างไรก็ดี ถ้าสุดท้ายสิ่งที่ต้องการคือ อยากมีโอกาสลุ้น Top University ตั้งแต่ทำ UCAS ไม่อยากลุ้นตอน Clearing ไม่อยากลุ้นตอน Gap Year ไม่อยากค่อยไป Top University ตอน Master Degree วิธีที่ 4 อาจเป็นคำตอบครับ
วิธีที่ 4 มา Retake และทำเกรดใหม่ที่ Krutoo
ที่ Krutoo เราสามารถทำ A-level ได้หลากหลายวิชา เราเป็น Exam Centre ของทั้ง Pearson Edexcel และ Cambridge International เราเป็น UCAS Centre ซึ่งทำให้นักเรียนสามารถสมัคร University ใน UK ที่เราได้เหมือนโรงเรียนปกติทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถช่วยสมัคร University ของประเทศอื่นได้ด้วย
การมา Retake และทำเกรดใหม่ที่ Krutoo นั้น เราจะเอา Profile เดิมที่เด็ก ๆ ได้มาจากโรงเรียนเก่ามาใช้เป็นเพียงข้อมูลอ้างอิง เพราะเราจะวางแผนกันใหม่ ต้องเปลี่ยนวิชาหรือไม่ ต้องสอบรอบไหน เราจะพิจารณากันใหม่ทั้งหมด และสุดท้าย Predicted Grade ที่จะได้นั้นขึ้นกับความตั้งใจตั้งแต่วันแรกที่มาเริ่มเรียนด้วยกัน ไม่ขึ้นกับอดีตที่ผ่านมา เป้าที่เด็ก ๆ อยากได้ เรานั้นพร้อมสนับสนุน โดยเราจะมาคุยกันว่า วิธีการที่จะทำให้ได้เป้าตามนั้นคืออะไร
รายละเอียดของการมาทำเกรดปีสุดท้าย และทำ Profile ใหม่ที่ Krutoo นั้น จะแตกต่างกันไปในแต่ละเคสที่เข้ามาคุย หากสนใจสามารถพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 084-164-2323 (สาขาสีลม) และ 083-179-9630 (สาขาหลักสี่) หรือที่ Line @krutoo ได้เลยครับ
บทสรุปของเรื่องนี้ ก็คือ ใครที่ได้ Predicted Grade ไม่ดี … โอกาสได้ Top University ที่ UK ยังมีอยู่
- วิธีที่ 1 ถ้าเกรดตอนจบดีพอ เราอาจได้ Top University ตอน Clearing
- วิธีที่ 2 ถ้าเกรดตอนจบดีพอ เราอาจ Gap Year แล้วค่อยได้ Top University ในปีถัดไป
- วิธีที่ 3 ถ้าเราได้ First Honour ตอนเรียน Bachelor และมี Profile ที่ดี เราอาจได้ Top University ตอน Master Degree ก็เป็นไปได้
- วิธีที่ 4 ถ้าอยากลุ้น Top University ตั้งแต่ตอนนี้ ที่ Krutoo อาจช่วยได้ เข้ามาคุยกันครับ
ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน ใน 4 วิธีนี้ สุดท้ายเราจะยังไปถึง Top University ได้อย่างที่ตั้งใจ เส้นทางอาจแตกต่าง แต่ปลายทางยังเหมือนเดิม อย่าเพิ่งถอดใจ และลดขนาดของความฝันลงนะครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนเสมอครับ
APSthai : The Best Education In Your Own Version