A-level เรียนแค่ 3 – 4 วิชา เมื่อบวกกับ Profile ที่แสดงความ Born to be ความมี Passion และการมีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเข้า Top University ใน UK และอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก

ฟังดูไม่ได้ยากอะไร แต่ทำไมหลาย ๆ คนก็ยังพลาดจากเกรด A-level ที่ดีพอ สำหรับการเข้า Top University ที่ต้องการไปอย่างน่าเสียดาย

A-level ให้เลือกอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่เลือกยังไงก็ได้

A-level นั้นไม่มีวิชาบังคับ นั่นคือ 3 – 4 วิชาที่จะเลือกเรียน สามารถเลือกเรียนวิชาอะไรก็ได้ อย่างไรก็ดี แม้จะเลือกอะไรก็ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าจะเลือกยังไงก็ได้ เพราะต้องมีหลักการในการเลือกที่เหมาะสม ส่วนใหญ่แล้วคนที่ล้มเหลวใน A-level นั้น มักจะมีแนวทางในการเลือกวิชาหลัก ๆ อยู่ 3 ทางคือ

  • เลือกตามเพื่อน เลือกตามรุ่นพี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกด้วยเหตุผลว่า มีคนอื่นบอกว่าง่าย ซึ่งในความเป็นจริงนั้น มันไม่มีวิชาที่ง่าย มันมีแต่วิชาที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับเราเท่านั้น
  • เลือกตาม Trend อาชีพ เช่น ช่วงนี้อาชีพไหนมาแรง ก็อยากจะเรียนต่อในด้านนั้น ก็เลยเลือกวิชา A-level ให้สอดคล้องกับการไปเรียนต่อด้านนั้น โดยที่ลืมไปว่า Trend นั้นเป็นอะไรที่ไม่ยั่งยืน มาแล้วก็ไป และที่สำคัญ ถ้าสิ่งที่เป็น Trend ไม่ได้เป็นสิ่งที่เหมาะกับเรา มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะประสบความสำเร็จได้โดยง่ายเลย
  • เลือกตามความคาดหวังของคนอื่น เช่น คุณพ่อคุณแม่บอกให้เลือก ญาติผู้ใหญ่บอกให้เลือก คุณครูที่โรงเรียนบอกให้เลือก ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่เป็นตัวเราเอง ก็เช่นเดียวกับการเลือกตาม Trend ที่ความสำเร็จนั้นเป็นสิ่งที่จะคาดหวังได้ยากเป็นอย่างยิ่ง

แล้วการเลือก A-level ที่ถูกต้องต้องทำอย่างไร

หลักการสำคัญของ A-level คือคำพูดที่ว่า “Student needs only understanding in the class” นั่นหมายความว่าเรามีหน้าที่ต้องเตรียมตัวก่อนเข้าห้องเรียน และต้องทำงานเพิ่มเติมเวลาอยู่นอกห้องเรียน ต้อง Self-study ให้ได้อย่างน้อย 50% ของหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหมด เพราะฉะนั้น หลักการเลือก A-level ที่ถูกต้อง จึงมีเพียงแค่วลีสั้น ๆ แค่วลีเดียวว่า

“เก่ง รัก ชอบ ถนัด และ มีความสุข”

วิชาไหน “เก่ง รัก ชอบ ถนัด และ มีความสุข” วิชาไหนที่รู้แล้วก็อยากรู้ให้มากขึ้น ทำเป็นแล้วก็อยากทำให้ดีขึ้น นั่นคือวิชาที่ควรเลือกใน A-level

ปลาว่ายน้ำได้ดี มีความสุข มีชีวิตที่ปกติสุขเมื่อได้อยู่ในน้ำ แต่เมื่อใดที่ปลาพยายามจะปีนต้นไม้ อย่าว่าแต่จะปีนต้นไม้ได้สำเร็จเลย แค่มาอยู่บนบกเพียงชั่วครู่ ก็ตายเสียแล้ว เพราะฉะนั้น เพียงไม่พยายามที่จะเป็นปลาที่ปีนต้นไม้ ก็มีโอกาสที่จะสำเร็จใน A-level มากขึ้นได้แล้ว

แต่แม้เป็นปลาที่ว่ายน้ำ ก็ต้องว่ายอย่างถูกวิธีด้วย

ปลาบางตัวว่ายน้ำไม่ดี บางทีชีวิตก็อาจตกอยู่ในอันตราย เช่นเดียวกัน แม้จะเลือกวิชา A-level ได้อย่างถูกต้องแล้ว แต่ก็ต้องเรียนได้อย่างถูกวิธีด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์ที่ดีก็อาจจะยังไม่เกิดขึ้น คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการเรียน A-level คือ

  • อย่าลืมว่าเราต้อง Self-study อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ให้คิดในลักษณะนี้ เช่น ถ้าวันนี้คุณครูให้การบ้าน 5 ข้อ เราควรทำเพิ่มให้ได้อีก 5 ข้อเป็นอย่างน้อย ถ้าวันนี้คุณครูยก Case Study 2 เรื่อง เราควรหา Case Study มาศึกษาเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 เรื่อง เป็นต้น ครูให้เท่าไร เราทำเพิ่มอีกเท่านั้น เป็นอย่างน้อย
  • เชื่อมโยงสิ่งที่เรียน ไปสู่สิ่งที่อยู่ภายนอก และชีวิตจริง อย่าติดตำรา อย่ายึดแต่แค่ในหนังสือหรือข้อสอบ แต่ให้หาความรู้ ฝึกทักษะ เพิ่มประสบการณ์ อย่างคนที่มีความรู้สึกว่าโลกทั้งใบคือห้องเรียน และเราอยากจะเรียนรู้ในสิ่งที่เราเลือกให้มากที่สุดอยู่ตลอดเวลา
  • ทำ Past Papers เยอะ ๆ เข้าใจวิธีการใช้ Mark Scheme หาให้เจอว่าตัวเองยังขาด Skills อะไร ขาดการทบทวน ขาดความเข้าใจ หรือขาดเทคนิคการทำข้อสอบ แล้วฝึก​ Skills เหล่านั้นให้ครบถ้วน

เมื่อเลือกวิชา A-level ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับตัวเองแล้ว และเรียน A-level ได้อย่างถูกวิธีแล้ว เพียงแค่สร้าง Profile ที่แสดงความ Born to be ความมี Passion และการมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน นอกจากเกรด A-level จะดีแล้ว โอกาสในการเข้า Top University ระดับโลก ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

เกิดเป็นปลา จงเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้ดีที่สุด อย่างมีความสุขที่สุดนะครับ

APSthai : The Best Education In Your Own Version