ใครอยู่ Year 12 แล้ว สำหรับเทอม 1 ที่เพิ่งจบไปหมาด ๆ เกรดในโรงเรียนเป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? ดีอย่างที่คาดหวังไว้ หรือ มีอะไรที่ผิดคาดหรือเปล่า ?

หลาย ๆ คนอาจกังวลกับเกรด Year 12 เทอม 1 ที่ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น บางคนอาจบอกว่าไม่ใช่แค่ไม่ดีนะ แต่ถึงขั้นเลวร้ายเลยแหละ ข่าวดีก็คือ เพิ่งเทอมเดียวครับ อะไร ๆ ยังแก้ไขกันได้ ข่าวร้ายก็คือ แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่จะแก้ตัวนะครับ

Year 12 เทอม 1 เกรดไม่ดี แล้วมันเสียหายอย่างไรบ้าง ?

แน่นอนว่าเกรดของ Year 12 เทอม 1 ยังไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร แต่ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง ก็สามารถส่งผลกระทบที่ใหญ่โตมาก ๆ ครับ

เพราะการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยที่อังกฤษผ่านระบบ UCAS นั้น สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่โรงเรียนจะต้องส่งไปให้มหาวิทยาลัยพิจารณาก็คือ Predicted grade ว่าเราจะเรียนจบ A-level ด้วยเกรดเท่าไร Predicted grade นั้นมีผลต่อการพิจารณาของมหาวิทยาลัยที่อังกฤษมาก ๆ เพราะถ้า Predicted grade ต่ำกว่าเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยนั้น ๆ ตั้งไว้ เขาก็จะตัดสิทธิ์เราไปเลยครับ ซึ่งโรงเรียนจะประเมิน Predicted grade กันตอนต้น Year 13 คำถามคือ Predicted grade นั้นประเมินมาจากอะไร ?

มันถูกประเมินมาจากผลการเรียนของ Year 12 ครับ ไม่ว่าจะเป็นการสอบในโรงเรียนอย่าง End of Year 12 exam หรือการสอบจริง ๆ อย่าง AS-level ซึ่งถ้าผลสอบเหล่านี้ไม่ดี ก็รับประกันได้เลยว่า Predicted grade นั้นก็จะไม่ดีแน่ ๆ ซึ่งผลการสอบ End of Year 12 exam หรือการสอบ AS-level จะดีหรือไม่ดีนั้น มันก็มีผลมาจากประสิทธิภาพในการเรียนของ Year 12 ตลอดทั้งปี ซึ่งแน่นอนว่าผลการสอบย่อยแต่ละเทอม ก็ส่งผลต่อเรื่องนี้โดยตรง

เพราะฉะนั้น ใครที่ Year 12 เทอม 1 เกรดไม่ดีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราต้องหาทางออกกันแล้วครับ ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันการอย่างแน่นอนครับ ซึ่งในที่นี้ ผมมีทางออกให้ 2 ทางขึ้นกับกรณีครับ

ทางออกแรก – ถ้าทุกอย่างถูกต้องหมด มีแค่ตัวเองที่ต้องแก้ไข

ถ้าเราเป็นคนที่มั่นใจว่าเราเลือกวิชาเรียนถูกต้อง เราชัดเจนกับเป้าหมาย เราหาตัวเองเจอแล้ว และเราอยู่ในโรงเรียนที่ดีพอ ที่มีครูคุณภาพที่พร้อมจะ support เราจนกระทั่งเราเข้ามหาวิทยาลัยระดับท็อปในอังกฤษได้จริง นั่นก็แปลว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากตัวเราเองครับ

อย่างแรกเลย บางคนอาจยังไม่เข้าใจว่า A-level นั้นต่างจาก IGCSE อย่างไร ไม่ใช่แค่เนื้อหาการเรียนการสอนที่ยากขึ้น แต่ความรับผิดชอบของผู้เรียนก็ต้องมากขึ้นด้วย ในระดับ IGCSE สัดส่วนของ Teaching ต่อ Self-studying ที่เหมาะสมนั้นปกติอยู่ที่ 80 ต่อ 20 แต่พอขึ้น A-level ในปีแรก สัดส่วนตรงนี้เปลี่ยนเป็น 60 ต่อ 40 เลยทีเดียว ตีความง่าย ๆ ก็คือ ถ้าครูสั่งให้ทำการบ้าน 6 ข้อ เราสามารถทำเพิ่มเองอีก 4 ข้อ รวมเป็น 10 ข้อได้ไหม แต่จริง ๆ แล้วต้องมากกว่านั้นอีกครับ เราพร้อมที่จะ Self-studying ด้วยการอ่านหนังสือล่วงหน้าก่อนเข้าเรียน และ ค้นคว้าเพิ่มเติมนอกจากในตำราเรียน หรือไม่ ?

ถ้าเรายังไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ว่า ต้องเริ่มทำแล้วครับ เพราะถ้ายังไม่เริ่มทำ ก็รับรองได้เลยว่า Year 12 เทอม 2 และเทอมต่อ ๆ ไป ผลการเรียนก็จะออกมาแย่แบบนี้อีก และยิ่งเวลาผ่านไปทุกอย่างก็จะยิ่งแก้ไขยากขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่ง Year 13 นั้น สัดส่วนของ Teaching ต่อ Self-studying ก็จะสลับเป็น 40 ต่อ 60 ซึ่งหนักขึ้นไปอีก ถ้าไม่ปรับตัวไว้ตั้งแต่วันนี้ คือไม่รอดแน่นอนครับ

อย่างที่สอง บางคนยังใช้กลยุทธ์เดิมที่เคยใช้ตอน IGCSE มาใช้กับ A-level บางคนเชื่อว่าวิธีตอบคำถามในข้อสอบนั้นเหมือนเดิม การให้คะแนนใน Markscheme นั้นเหมือนเดิม อย่างวันก่อนผมเพิ่งเจอนักเรียนคนหนึ่งที่บอกว่าตอน IGCSE ตอบคำถามวิชา Math บางข้อแบบไม่แสดงวิธีทำ เขียนแต่คำตอบ ได้คะแนนเต็ม แต่พอขึ้น A-level แล้วทำอย่างที่ว่าได้ 0 คะแนนทันที นี่เป็นแค่หนึ่งในตัวอย่างของการเข้าใจผิดว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมครับ เพราะฉะนั้น เราขึ้นมาเรียนอีกระดับแล้ว ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ว่ากฎกติกาเป็นอย่างไร แล้วปรับใช้ให้ถูกต้อง

สรุปแล้วทางออกแรกคือการขยันและทำตามกติกาที่ถูกต้องครับ ถ้าเรามั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้องแล้ว เราเลือกวิชาถูกต้อง เราเป้าหมายชัดเจน โรงเรียนดีพอ ครูดีพอ แล้วปัญหาอยู่ที่ตัวเราเอง เราก็แค่ลุกขึ้นไปทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์แบบ แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นได้ครับ

ทางออกที่สอง – ถ้าดูเหมือนจะไม่มีอะไรเลยที่ถูกต้อง

ไม่ว่าเราจะพยายามเต็มที่แล้ว หรือยังไม่ได้พยายามให้เต็มที่ก็แล้วแต่ แต่ถ้าเรารู้สึกได้ว่าวิชา A-level ที่เราเลือกมันผิด เป้าหมายเรายังไม่ชัดเจน โรงเรียนไม่น่าจะ support เราได้ หรือครูก็อาจจะไม่ดีพอ ซึ่งถ้าเกรด Year 12 เทอม 1 ที่ออกมาไม่ดี มันเป็นเพราะปัจจัยเหล่านี้ คำแนะนำมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ อย่าฝืนต่อไปครับ

การเลือกวิชา A-level ผิด คือเลือกวิชาที่ไม่ใช่ตัวเราเอง ยิ่งฝืนเราจะยิ่งหมดแรงไปเรื่อย ๆ เพราะเราทำไม่ไหว ยิ่งต้องมานั่ง Self-studying ในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองยิ่งฟังดูเป็นไปไม่ได้เลย การยังไม่ชัดเจนในตัวเองว่าจะทำอะไร ก็จะทำให้เราไม่สามารถทำให้มหาวิทยาลัยที่อังกฤษสนใจที่จะพิจารณารับเราเข้าไปเรียนได้ และการอยู่ในโรงเรียนที่เรามั่นใจว่าจะ support เราไม่ได้หรือการเรียนกับครูที่ไม่น่าจะมีประสบการณ์พอที่จะช่วยเราได้ นั่นยิ่งทำให้เราแทบจะไม่สามารถเดินไปถึงเป้าหมายได้เลย

ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบนี้ การสู้ต่อแทบไม่มีประโยชน์ครับ ทางออกคือการย้ายที่เรียน เลือกวิชา A-level ใหม่ วางแผนวางเป้าหมายกันใหม่ แล้วเริ่มสู้ใหม่อีกครั้งหนึ่งครับ

ซึ่งพอพูดแบบนี้ หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าแล้วจะทำได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้มันผ่านไปแล้ว 1 เทอม ต้องรอไปเริ่ม Year 12 ใหม่ตอนเดือน August/September ปีหน้า ซึ่งก็ต้องซ้ำชั้น 1 ปีอย่างงั้นหรือ ?

นั่นก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ก็มีทางเลือกที่ดีกว่านั้นครับ ยกตัวอย่างเช่นการออกจากโรงเรียนมาทำ Homeschool ในระดับ A-level ซึ่งเป็นทางเลือกที่สุดท้ายเรายังสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ตามกำหนดเวลาเดิม ไม่ต้องซ้ำชั้นแต่อย่างใด ซึ่งอาจยกตัวอย่างได้แบบนี้ครับ

  • แทนที่ต้นปี 2020 จะกลับไปเรียนเทอม 2 ที่โรงเรียนเดิม ก็ออกจากโรงเรียนมาทำ Homeschool โดยเริ่มจากการมาวางแผนกันใหม่ และทำ Career Test ในกรณีที่ยังไม่ได้ทำ เพื่อจะวางแผนว่าจะเรียนวิชา A-level อะไรบ้างให้เหมาะกับตัวเราเองที่สุด
  • ตั้งแต่ January 2020 เริ่มเรียน A-level 3 – 4 วิชาที่เลือกใหม่อีกครั้งหนึ่ง และเริ่มเตรียมการในการเขียน Personal Statement, การทำ Reference, การฝึก Admissions Tests, และ การซ้อม Interview สำหรับสมัครมหาวิทยาลัย
  • ช่วงเดือน September/October 2020 ทำ UCAS Application เพื่อสมัครมหาวิทยาลัยในอังกฤษทั้ง 5 ที่
  • สอบ A-level ทั้งหมดให้จบภายในเดือน May/June 2021 โดยจะมีการทยอยสอบก่อนหน้านั้นมาบ้างแล้วในรอบต่าง ๆ ที่มีการเปิดสอบ ทั้งนี้ขึ้นกับแผนของนักเรียนแต่ละคน
  • เข้ามหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จในเดือน September/October 2021

ที่ Krutoo Homeschool ของเรานั้นมีโปรแกรม Homeschool สำหรับ A-level ครับ ซึ่งการทำ Homeschool A-level กับที่ Krutoo Homeschool นั้นข้อดีคือ

  • การเรียนการสอน การให้คำปรึกษา การแนะแนววางแผน เป็นแบบตัวต่อตัวทั้งหมด จึงสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างแท้จริง
  • เราเป็น UCAS Centre เหมือนกับโรงเรียนในอังกฤษ เพราะฉะนั้นการสมัครมหาวิทยาลัยที่อังกฤษผ่านเราจึงมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกับโรงเรียนอื่น ๆ ครับ
  • เราเป็น Exam centre ของ Pearson Edexcel และ Oxford AQA เพราะฉะนั้นการสอบเกือบทุกวิชาสามารถจัดสอบที่สถานที่ของเราได้เลย

ซึ่งปีที่ผ่าน ๆ มานักเรียนที่เรียน Homeschool A-level กับเราทุกคนสอบติดมหาวิทยาลัยที่อังกฤษในระดับ Top 10 ในสาขาวิชาที่ตัวเองเลือก และปีนี้เองก็เช่นกัน ณ ตอนนี้นักเรียนของเราเริ่มทยอยได้รับ offer จากมหาวิทยาลัยระดับ Top มาแล้วมากมายครับ

ถ้าอ่านดูแล้วรู้สึกว่าการทำ Homeschool เป็นทางออกที่ถูกต้อง เพื่อการเริ่มใหม่อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และไม่เสียเวลา ก็ติดต่อเข้ามาเพื่อนัดพูดคุยกันได้นะครับที่ 02-026-3221 ครับ

สรุปแล้ว Year 12 เทอม 1 ที่ผ่านไปแล้วนั้น เกรดดีไม่ดีก็ให้มันผ่านไปครับ ได้เวลาลงมือทำสิ่งที่สมควรทำ ขยันมากขึ้น ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์มากขึ้น และเลือกทางเดินที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวเองนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ