อยากประสบความสำเร็จต้องมีแผน อยากเข้า Top Uni ที่อังกฤษได้ก็ต้องมีแผนเช่นกัน วันนี้เราจะมาดูกันว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง และในแต่ละช่วงขณะนั้นเราต้องพิจารณาอะไร และ ทำอะไรบ้าง
รู้ก่อนว่า Top Uni ที่อังกฤษต้องการอะไร
Top Uni ที่อังกฤษต้องการคนเก่งที่หาตัวเองเจอ เพราะฉะนั้นถ้าพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเราเป็นคนเก่ง ที่หาตัวเองเจอ เราก็จะมีโอกาสสูงมากแล้วที่จะเข้า Top Uni ที่อังกฤษได้ ที่เหลือคือการแข่งขันกับผู้สมัครคนอื่นว่าเขาเป็นคนเก่งกว่าเราไหม และ เขาหาตัวเองเจอได้มากกว่าเราไหม
การวัดว่าเราเป็นคนเก่งหรือไม่ Top Uni ดูที่ 2 อย่างหลัก ๆ
- ผลการเรียนที่ได้มาแล้วทั้งหมด เช่น เกรด IGCSE และ เกรด AS-level ถ้าเรามีการสอบ
- ผลการเรียนที่เราน่าจะได้ในอนาคต นี่คือ Predicted Grades ที่โรงเรียนเป็นผู้ประเมินให้ว่าเราน่าจะสอบจบ A-level หรือ IB หรือหลักสูตรต่าง ๆ ที่เราเรียน ด้วยเกรดเท่าไร
การวัดว่าเราเป็นคนที่หาตัวเองเจอหรือไม่ เขาจะดูที่ 4 อย่างหลัก ๆ
- Personal Statement ที่เราต้องเขียนเล่าว่าเราสนใจและทุ่มเทให้กับสิ่งที่เราจะสมัครเรียนอย่างไร
- Reference จากครูท่านหนึ่งเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เราเขียนใน Personal Statement นั้นเป็นเรื่องจริง
- Additional Assessment เช่นข้อสอบพิเศษต่าง ๆ อย่าง Admissions Tests การทำ Portfolio หรือการเขียน Written Assignment เพิ่มเติม เพื่อวัดความสามารถและความสนใจเชิงลึกของเราในด้านนั้น ๆ
- Interview เพื่อทดสอบเราอย่างเข้มข้นว่าเราเกิดมาเพื่อเรียนสิ่งนี้จริงหรือไม่
เมื่อรู้แล้วว่า Top Uni ที่อังกฤษต้องการอะไร ต่อไปก็คือ ทำอย่างไรให้เรามีคุณสมบัติแบบที่เขาต้องการ
อย่าฝืนทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเอง
มันยากมากที่เราจะเก่งได้ บนสิ่งที่เราไม่ถนัดและไม่ได้ชอบ และมันก็ยากมากที่จะพิสูจน์ให้ใครต่อใครรู้ว่าเราหาตัวเองเจอ ถ้าสิ่งที่เราเที่ยวป่าวประกาศออกไปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่รักหรือเป็นตัวตนของเราเลย เพราะฉะนั้นบันไดขั้นแรกสู่ความสำเร็จในการเข้า Top Uni ที่อังกฤษ ก็คือ อย่าฝืนทำอะไรก็ตามที่ไม่ใช่ตัวเอง
ก่อนขึ้น Year 9 หรืออย่างช้าที่สุดคือก่อนเลือกวิชา IGCSE เด็ก ๆ ต้องได้ทำ Career Test เพื่อตอบให้ได้ว่าสิ่งที่รักคืออะไร ตัวตนเป็นแบบไหน และความถนัดเป็นอย่างไร จึงจะได้จุดเริ่มต้นสำหรับเส้นทางทั้งหมดว่า สิ่งที่จะไม่เป็นการฝืนตัวเองคืออะไร และการค้นหาตัวเอง จนเจอตัวเองในที่สุด จะเริ่มต้นจากนี้เป็นต้นไป
การเลือกวิชา IGCSE ให้ถูกต้อง
ครูที่ทำหน้าที่ Consult จะนำผล Career Test ที่ได้มาช่วยเลือกวิชา IGCSE ให้กับเด็ก ๆ ว่านอกเหนือจากวิชาจำเป็นอย่าง Math กับ English แล้ว วิชาไหนอีกบ้างที่จะต้องเลือก เพื่อให้ Profile ของเราออกมาดีที่สุด ทั้งเพื่อให้ถูกใจ Top Uni ที่อังกฤษ และ ทั้งเพื่อให้เด็ก ๆ มีโอกาสค้นหาตัวเองได้อย่างเต็มที่
เด็ก ๆ มีหน้าที่ตั้งใจเรียน และทำให้ดีที่สุดในทุกวิชาที่เลือกมาในระดับ IGCSE นี้ ทำ 100 เต็ม 100 ได้ต้องทำ 100 เต็ม 100 ถ้าทำไม่ได้อย่างน้อยก็ต้องได้เกรด A* หรือเกรด 9 ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าต้องฝืนเรียนในวิชาที่ไม่ใช่ตัวเองจริง ๆ
การเลือกวิชา A-level หรือ IB ให้ถูกต้อง
ก่อนขึ้น Year 12 เมื่อถึงเวลาต้องเลือกวิชา A-level หรือ IB ครูที่ทำหน้าที่ Consult จะนำผล Career Test กลับมาคุยกับเด็ก ๆ อย่างจริงจังอีกครั้ง พร้อมกับพูดคุยถึงช่วงเวลาที่ผ่านใน Year 9, 10, 11 ว่าเรียนแต่ละวิชาที่เลือกในระดับ IGCSE เป็นอย่างไรบ้าง วิชาไหนทำได้ดี วิชาไหนชอบ และสิ่งที่อยากทำต่อจริง ๆ ในอนาคตคืออะไร
ตรงนี้อีกสิ่งที่จะช่วยได้คือ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำเพิ่มในช่วง Year 9,10,11 เช่นการอ่านหนังสือเพิ่มเติมในด้านที่เราสนใจ การไปประกวดแข่งขันต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญของเรา การไป Summer ต่างประเทศ การฝึกงานในที่ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เด็ก ๆ ตอบตัวเองได้ชัดขึ้นอีกว่า ถ้าต้องเลือกวิชาใน A-level และ IB จริง ๆ จะเลือกวิชาอะไร
หลาย ๆ คนกลัวระบบที่ต้องมีการเลือกวิชาเรียน ว่าถ้าเลือกผิดจะทำอย่างไร คำตอบของเรื่องนี้มีอย่างเดียวคือ ถ้าไม่ฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบ วางแผนให้ดี และพิสูจน์ตัวเอง พาตัวเองไปลองทำอะไรต่าง ๆ อยู่เสมอ โอกาสเลือกผิดคือแทบจะเป็นศูนย์เลยทีเดียว
การสร้าง Profile ให้ตัวเองตั้งแต่ Year 9
เราจะเห็นว่า Top Uni ที่อังกฤษจะพิจารณาว่าเราหาตัวเองเจอหรือไม่จาก Personal Statement, Reference, Additional Assessments, และ Interview ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างขึ้นได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน หรือ ไม่กี่เดือน แต่เป็นสิ่งที่ต้องค่อย ๆ สะสมมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เด็ก ๆ อย่างช้าที่สุดก็คือตั้งแต่ Year 9
แต่ละปิดเทอมใหญ่ต้องมีการวางแผนว่า จะไป Summer ที่ไหนและประเภทไหน ยิ่ง Year โตขึ้น Summer ที่จะไปยิ่งต้องเกี่ยวข้องกับอาชีพต่าง ๆ ที่เราสนใจมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ตอนจะขึ้น Year 10 เราอาจไป Summer ที่ Concord College เพื่อไปรับรสชาติการเรียนของโรงเรียน Top ที่อังกฤษ แต่พอจะขึ้น Year 11 หรือ Year 12 เราคงต้องเปลี่ยนไป Summer ที่เกี่ยวกับอาชีพที่เราสนใจที่ Imperial ของ Pro-ed แทน และ ก่อนขึ้น Year 13 ก็ไป Summer ที่มีไว้เตรียมเข้า University อย่างของ OIC เป็นต้น
กิจกรรมอื่น ๆ ก็เช่นกัน ยิ่งโตขึ้นยิ่งต้องเข้มข้นขึ้น ตอน Year 9 หนังสือที่เราอ่านอาจยังไม่ยากมาก แต่พอโตขึ้น เราต้องไปดูในเว็บไซต์ของ Top Uni ที่อังกฤษหรือของโรงเรียนดี ๆ ต่าง ๆ แล้วว่า เขาแนะนำให้เราอ่านหนังสืออะไรบ้าง และเราก็ค่อย ๆ อ่านให้ยากขึ้นไปตามนั้น
สุดท้ายแล้วการสร้าง Profile เพื่อทำให้เขาเชื่อว่าเราหาตัวเองเจอนั้น ไม่ใช่การพยายามเอาใจใคร แต่คือการที่เราสนใจเรื่องนั้นจริง ๆ แล้วมีเวลาเมื่อไรก็ทำ มีโอกาสเมื่อไรก็ลอง และทำให้เข้มข้นขึ้น จริงจังขึ้นไปเรื่อย ๆ ในแต่ละปี ๆ ในที่สุดเราจะได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบตลอดเวลา และพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็นได้อย่างมีความสุข และเป็นตัวของตัวเองที่สุด
บางที เราอาจต้องย้ายไปอยู่ในที่ที่ช่วยเราได้
แม้ความสำเร็จจะขึ้นกับตัวเองเป็นสำคัญ แต่สิ่งแวดล้อมและคนที่รายล้อมเรานั้นก็มีอิทธิพลต่อเราอยู่ไม่น้อย ถ้าเราอยากเข้า Top Uni ที่อังกฤษ สิ่งที่เราควรตั้งคำถามคือ ที่ที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน เขาสามารถช่วยเราได้มากแค่ไหน
ตัวชี้วัดที่ง่ายที่สุด คือ ความสำเร็จของที่ที่เราอยู่ เช่น ผลสอบ A-level, IB, IGCSE ของเขาเป็นอย่างไร และสถิติการเข้า Top Uni ที่อังกฤษของนักเรียนที่เรียนจบจากที่ที่เราอยู่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง การได้เห็นข้อมูลเหล่านี้ จะชวนให้เราตั้งคำถามต่อไปว่า แล้วถ้าถึงตาของเราบ้าง เขาจะช่วยเราได้หรือไม่ และถ้าช่วยไม่ได้ เราควรจะไปย้ายไปอยู่ที่ไหนดี
มีโรงเรียนดี ๆ มากมายในอังกฤษที่มีผลงานนักเรียนเข้าไปเรียน Top Uni ที่อังกฤษได้ปีละมากกว่า 50 คน บางโรงเรียนมีนักเรียนเข้า Cambridge และ Oxford ได้ไม่น้อยกว่า 20 คนทุกปี มีทั้งโรงเรียน Boarding School ใหญ่ ๆ อย่าง Brighton College, Concord College, Abingdon School, Ruthin School, Shrewsbury UK หรือ โรงเรียน Sixth Form College อย่างเช่น OIC, Abbey Cambridge, ISCA, d’Overbroeck’s ที่มีผลงานเหล่านี้ที่ยอดเยี่ยม ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าพิจารณาสำหรับแผนการของเรา
และทั้งหมดนี้ คือแผนที่ใช้ได้สำหรับทุกคน เพื่อเข้า Top Uni ที่อังกฤษ อย่างไรก็ดี แผนที่ใช้ได้สำหรับทุกคนนี้คือหลักการโดยรวม แต่ละคนย่อมมีแผนการย่อยที่ละเอียดขึ้นของตัวเอง ดีที่สุดคือ รู้หลักการที่เป็นภาพรวมนี้ แล้วเข้ามาคุยกับคุณครู Consult เพื่อวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคนจริง ๆ ครับ