เด็กคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า เขาซ้อมทำ Past Papers ย้อนหลังไป 3 ปี กลับได้คะแนนสอบในโรงเรียนต่ำกว่าเพื่อนที่ซ้อมทำ Past Paper ไปแค่ 1 ปี แต่เผอิญเป็นปีที่ตรงกับที่คุณครูเอามาออกข้อสอบพอดี

เพื่อนของเด็กคนนี้เก็งข้อสอบเก่ง หรือว่าแค่โชคดี และเมื่อถึงวันสอบ IGCSE จริง ๆ เขาจะยังเก็งข้อสอบเก่งแบบนี้ หรือว่าโชคดีแบบนี้อีกหรือไม่

เรื่องนี้อาจยากที่จะตอบได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า มันมีวิธีที่เราจะสามารถเก็งข้อสอบได้อย่างถูกต้อง แถมยังมีลุ้นถึง A* และที่สำคัญคือนี่คือสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่รู้และลงมือทำตามหลักการ 4 ข้อนี้ เท่านั้นเอง

ข้อแรก : มีขอบเขตของเนื้อหาและข้อสอบให้เรารู้ล่วงหน้า

การเรียนในระบบอินเตอร์อย่าง IGCSE, A-level, หรือ IB นั้นมีสิ่งที่เรียกว่า Syllabus หรือ Specification ซึ่งจะบอกทั้งหมดเอาไว้แล้วว่า สิ่งที่เราต้องเรียนรู้คืออะไรบ้าง และนั่นก็หมายถึงสิ่งที่จะออกสอบเช่นกัน

หลักสูตรเหล่านี้ไม่เคยออกข้อสอบนอกเหนือไปจากสิ่งที่ถูกระบุเอาไว้ใน Syllabus หรือ Specification เราสามารถใช้ความรู้และทักษะที่เราได้รับจากการเรียนอย่างครบถ้วน ทำข้อสอบได้ทั้งหมดทุกข้ออย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น นี่คือสิ่งแรกที่ทำให้เราเริ่มเก็งข้อสอบได้ว่า ขอบเขตของมันคือแค่ไหน

ข้อสอง : มีข้อสอบเก่าให้เราซ้อมทำเยอะมาก

ข้อสอบเก่า หรือที่เรียกกันว่า Past Papers นั้น มีให้ทำย้อนหลังเยอะมากในระบบ IGCSE, A-level, หรือ IB และเยอะมากพอที่จะทำให้เรารู้ว่าแนวทางของข้อสอบที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร และแนวทางที่จะเกิดขึ้นกับข้อสอบจริงที่เราจะต้องทำนั้นจะเป็นเช่นไร

คนที่ทำ Past Papers เยอะพอ คืออย่างน้อยย้อนหลัง 10 ปีนั้น จะรู้ว่าในหัวข้อต่าง ๆ นั้น สิ่งที่เขาสามารถถามเราได้ หรือประเมินเราได้ จะมีอะไรบ้าง ในหัวข้อเรื่องหนึ่ง ๆ อาจมีหลายแง่มุมที่ถูกนำไปสร้างเป็นคำถามได้ แต่ถ้าเราทำ Past Papers ได้เยอะพอ เราจะรู้จักแง่มุมเหล่านั้นทั้งหมด และไม่ว่าเราจะเจอข้อสอบแบบไหนต่อจากนี้ เราก็จะทำได้เสมอ

เพราะฉะนั้น การทำ Past Papers ให้เยอะพอ จะทำให้เราเริ่มเก็งข้อสอบได้ว่า คำถามแบบไหนบ้างที่เราจะมีโอกาสได้เจอ

ข้อสาม : มีเฉลยที่อธิบายอย่างละเอียดว่าทำอย่างไรถึงจะได้คะแนน (และทำอย่างไรถึงจะเสียคะแนน)

ระบบ IGCSE, A-level, และ IB มีสิ่งที่เรียกว่า Mark Scheme ซึ่งจะบอกเราว่าข้อสอบแต่ละข้อ ตอบแบบไหนถึงจะได้คะแนน หรือตอบแบบไหนที่จะไม่ได้คะแนน หรือส่งผลให้เสียต่อคะแนนในภาพรวมได้บ้าง

การศึกษา Mark Scheme ให้เชี่ยวชาญ จะทำให้เรารู้ความคาดหวังของคนออกข้อสอบ ว่าเขาต้องการเห็นคำตอบแบบไหน หรือเห็นวิธีทำแบบไหน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราทำข้อสอบได้ถูกต้องมากขึ้น ได้คะแนนมากขึ้น และได้เกรดที่ดีขึ้น

เพราะฉะนั้น การเข้าใจ Mark Scheme และใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว จะทำให้เราเริ่มเก็งข้อสอบได้ว่า ตอบแบบไหนถึงจะดีกับตัวเรามากที่สุด

ข้อสี่ : มีการวิเคราะห์สิ่งที่คนอื่นเคยทำผิดพลาดเอาไว้

การเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ โชคดีมาก ๆ ที่เรามีสิ่งที่เรียกว่า Examiner Report ซึ่งจะอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดว่า ข้อสอบแต่ละข้อนั้น คนส่วนใหญ่ที่ทำผิดหรือเสียคะแนนนั้น เขาผิดพลาดที่ตรงไหน

เมื่อเรารู้ว่าคนอื่นผิดตรงไหน เราจะเริ่มเดาใจคนออกข้อสอบได้ถูกต้องว่า จุดที่เขาอาจเอามาทดสอบเราเพิ่มเติมคืออะไร เราก็จะสามารถระมัดระวังตัวได้มากขึ้น และเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะไม่ผิดพลาดแบบนั้นเช่นกัน

เพราะฉะนั้น การอ่าน Examiner Report ให้เป็น จะทำให้เราเริ่มเก็งข้อสอบได้ว่า เราอาจพลาดจากตรงไหนได้บ้างและจะได้ระวังตัวให้ดีขึ้น

เมื่อลงมือทำตามหลักการ 4 ข้อนี้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เราจะเข้าใจทั้งหมดว่าสิ่งที่เขาต้องการวัดผลเราคืออะไร เพราะฉะนั้นไม่ว่าข้อสอบที่เราต้องเจอจริง ๆ จะมาแบบไหน มันก็เหมือนกับว่าเราได้เก็งข้อสอบตรงนั้นเอาไว้ทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะมาแบบไหน เราก็จะสามารถทำมันได้อย่างแน่นอน และมีโอกาสสูงมากที่จะไปถึง A* หรือแม้กระทั่งการทำได้ 100 เต็ม 100 จริง ๆ

เพื่อนของเด็กคนนั้นอาจโชคดีแค่ครั้งนี้ แต่ถ้าเด็กคนนั้นยังไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเองและเตรียมความพร้อมให้ดี เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดตาม Syllabus ให้ได้ ซ้อมทำ Past Papers อย่างสม่ำเสมอ อ่าน Mark Scheme ให้คล่องแคล่ว และเรียนรู้จาก Examiner Report เป็นอย่างดี สุดท้ายเด็กคนนี้ก็จะประสบความสำเร็จในการสอบ และการเรียนได้ และนั่นคือโชคดีที่เขาสร้างขึ้นเองอย่างแท้จริง

ขอให้ทุกคนโชคดี เก็งข้อสอบได้อย่างถูกต้อง จากการลงมือทำสร้างเหตุปัจจัยที่เหมาะสมนะครับ