เมื่อพูดถึงการเรียนต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ เชื่อว่าหลายคนคิดว่า ‘แพง’ แน่นอน เพราะค่าครองชีพในประเทศอังกฤษนั้นสูงมากกว่าไทย แต่ถ้ามาลองวิเคราะห์กันจริง ๆ แล้ว การศึกษาถือเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง เมื่อลงทุนแล้วก็ต้องคำนึงถึงกำไรหรือผลตอบแทนที่จะได้จากการลงทุนนั้น ถ้าจะส่งลูกหลาน 1 คน ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ‘มีคุ้มค่าหรือไม่?’ นอกจากต้องคำนึงถึงคุณภาพของโรงเรียน และคุณภาพของครูที่กล่าวไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ คำถามที่หลายคนอยากรู้เพื่อช่วยในการตัดสินใจคงหนีไม่พ้น ‘ค่าเทอมที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าหรือเปล่า?’

ก่อนอื่น ต้องขออธิบายก่อนว่า ‘ค่าเทอม’ หรือ ‘Tuition Fees’ นั้นมีความหมายว่าอย่างไร?

โดยปกติแล้ว โรงเรียนในประเทศอังกฤษที่รับ International Students ด้วย จะมีราคาค่าเทอมแจ้งไว้ 2 แบบคือ Day กับ Boarding จะขอยกตัวอย่างจากภาพด้านล่างค่ะ ภาพด้านล่าง เป็นค่าเทอม Sixth Form ของโรงเรียน Shrewsbury ประเทศอังกฤษค่ะ

จะขออธิบายง่าย ๆ เลยก็คือเด็กไทยที่อายุไม่ถึง 18 ปีและถือสัญชาติไทยทุกคนจะต้องทำ Visa เพื่อขอพำนักในประเทศอังกฤษ เพื่อเรียนได้ตามจำนวนปีที่เรียน และจะต้องมีที่อยู่ที่อังกฤษอย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้วจะอยู่หอของโรงเรียน เพราะฉะนั้นเด็กไทยจะต้องจ่ายเงินค่า Boarding Fees ด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่นอกเหนือจาก Tuition Fees โดยแต่ละที่ค่าหอก็จะมีราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทห้องที่โรงเรียนจัดไว้ให้ เพราะฉะนั้นดูเหมือนค่าเทอมราคาสูง เพราะเขารวม Tuition Fees กับ Boarding Fees เอาไว้ด้วยกันแล้ว ซึ่งเมื่อนำมาแยกเป็น Tuition Fees กับ Boarding Fees แล้วจะพบว่าหลายที่ Tuition Fees ถูกกว่าโรงเรียนนานาชาติในไทย หรือหลายที่ราคาสูงกว่าไม่มาก แต่ได้รับการดูแลแบบ Full Service ทั้งการ Support ด้าน Academic และการทำ Super-Curricular Activities จะขอยกตัวอย่างของโรงเรียน Oxford International College หรือ OIC ตามภาพด้านล่าง

จะพบว่า Tuition Fees 1 ปีการศึกษา (กันยายนถึงมิถุนายน) ราคา 25,167 ปอนด์ ไม่รวมค่า Boarding Fees ที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เรียน ในราคานี้ เมื่อเทียบกับโรงเรียนนานาชาติในไทยแล้วไม่ได้สูงกว่ามาก แต่ได้รับการดูแลอย่างดีจากทีมติวเตอร์ จากผลงานของ OIC แล้วในปี 2022 นักเรียน A-Level 92.47% ได้เกรด A*-A อีกทั้ง 29.2% สามารถเข้า Cambridge ได้ และ 50% สามารถเข้า Oxford ได้ รวมไปถึงได้เข้าเรียนต่อในด้าน Medicine, Mathematics, Economics, Natural Sciences, Law, Engineering อีกด้วย โดยที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มนอกจากนี้ จ่ายแค่รอบเดียว ไม่ต้องลงเรียนพิเศษเพิ่มวันเสาร์อาทิตย์หรือหลังเลิกเรียน ไม่ต้องไปหากิจกรรม Super-curricular และ Work Experience ทำเอง เพราะโรงเรียนมี Support ให้อยู่แล้ว

อีกที่ขอยกตัวอย่าง Concord College ประเทศอังกฤษ จะแสดงราคาเป็น Boarding fees เพราะเด็กส่วนใหญ่เป็น International ราคา Boarding fees สำหรับ 1 ปีการศึกษา (กันยายนถึงมิถุนายน) 53,400 ปอนด์ รวมทุกอย่างทั้งค่าเทอม ค่าหอพัก ค่ากินอยู่ในหอพัก ไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มเติม แต่ผลตอบแทนที่โรงเรียนมอบให้กับเด็กที่นี่คือการดูแลแบบ Top School ที่ดูแลทั้งด้าน Academic และ University Preparation จากผลงานของ Concord College ในปี 2022 นักเรียน A-Level ได้เกรด A* / A ถึง 81 % และ 83% สามารถเข้าเรียนที่ Top 10 Time World Ranking เช่น Cambridge, Oxford, Imperial College London, LSE และ UCL

และขอยกตัวอย่างที่ Brighton College ประเทศอังกฤษ ตามภาพด้านล่าง

ถ้าสังเกตจะพบว่า Tuition Fees ของ Year 12 และ Year 13 ต่อ 1 เทอมราคาอยู่ที่ 9,280 ถึง 9,420 ปอนด์ ถ้ารวม 3 เทอม (กันยายนถึงมิถุนายน) ราคาประมาณ 27,840 ถึง 28,260 ปอนด์ แต่เมื่อดูผลงานในปี 2022 แล้ว นักเรียนระดับ A-Level 62% ได้ A* และ 91% ได้ A*-A และเมื่อพูดถึงผลงานเข้า Top University ในปี 2022 นักเรียน 10% ได้เรียนที่ Oxford และ Cambridge และอีก 85% ได้เข้าเรียนใน Russell Group University เช่น Imperial College London, UCL, และ LSE เป็นต้น เพราะโรงเรียนมีการ Support ให้กับนักเรียนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นด้าน Academic ที่จะมีติวเตอร์ค่อยช่วยเหลือทุกวันหลังเลิกเรียน หรือมี Clubs and activities ที่จะช่วยเสริมสร้างความถนัดของนักเรียน และกิจกรรมนอกห้องเรียนที่ช่วยให้นักเรียนหาตัวตนของตัวเองและไปให้ถึงเป้าหมายของตัวเองให้ได้ ทั้งหมดนี้ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติม เพราะเป็น Support ของโรงเรียนอยู่แล้ว

เมื่อลองมาเทียบกับโรงเรียนนานาชาติในไทยแล้ว Tuition Fees จะดูมีราคาที่สูงกว่า แต่เมื่อลองวิเคราะห์ดี ๆ แล้ว ถ้าเรียนอยู่ที่ไทย จ่าย Tuition Fees ถูกกว่าไม่มามาก แต่ต้องใช้จ่ายเพิ่มเติมไปกับ

  1. ค่าเดินทาง ค่ากิน และค่าอยู่อาศัย
  2. ค่าเรียนพิเศษ
  3. ค่าใช้จ่ายเพื่อทำกิจกรรม Super-Curricular หรือ Work Experience
  4. ค่าเรียนซัมเมอร์ หรือกิจกรรมที่ช่วยเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย

และอาจจะมีค่าใช้จ่ายอีกมาก ที่เราอาจจะมองไม่เห็น เพราะว่าจ่ายยิบย่อยบ้าง หรือบางทีไม่ได้มองเป็นค่าใช้จ่ายที่ใหญ่มาก แต่เมื่อมารวมกันแล้ว เทียบกับค่าเทอมที่อังกฤษแล้ว การส่งลูกหลาน 1 คน ไปเรียนที่ประเทศอังกฤษนั้นคุ้มค่ากว่ามาก เพราะ

  1. ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนที่มีคุณภาพ ที่เป็นต้นแบบของหลักสูตรอังกฤษจริง ๆ
  2. ได้รับการสอนจากคุณครูที่มีคุณภาพ ครูที่เป็น Full-Qualified Teacher รู้ว่าจะสอนอย่างไรให้เด็กมี Profile ที่เพียงพอและดันเด็กไปให้ถึงที่
  3. ได้รับการดูแลจากโรงเรียนอย่างเต็มที่แบบ Full Service โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
  4. มีสิ่งแวดล้อมที่ดี เพราะทุกคนที่เข้าโรงเรียน Top ได้ รู้ว่าตัวเอง Born to be อะไร มี Passion ในการทำอะไร แล้วเราก็จะได้มี Mindset แบบนั้นด้วย

ลองพิจารณาดูกันอีกครั้งนะคะว่าการลงทุนครั้งนี้ ลูกของคุณพ่อคุณแม่ได้รับการศึกษาที่ดีเพียงพอและคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปหรือไม่? ถ้าลองดูแล้วว่าจ่ายเพิ่มอีกไม่มาก แต่ได้รับการดูแลอย่างดีโดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องห่วงอะไรอีก ก็เป็นเรื่องดีมากกว่าที่อยู่ใกล้ แต่ต้องคอยเป็นห่วงเพราะไม่ได้รับการ Support จากโรงเรียนที่อยู่ ทำให้เสียเวลา และเสียเงินเพิ่มอีกมาก อยากให้ทุกคนได้เรียนในที่ ๆ เหมาะสมกับตัวเองและได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อให้เขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่เขาใฝ่ฝันนะคะ