เรียนยังไง ไม่ให้ทุกข์ : เคล็ดลับการเรียนรู้อย่างมีความสุข

เมื่อต้นปี พวกเราได้เดินทางไปอังกฤษ เพื่อพูดคุยกับ Schools และ Universities ต่าง ๆ ที่เราทำงานอยู่ด้วย รวมถึงได้นัดคุยกับเด็ก ๆ ของเราที่ปัจจุบันนี้เรียนอยู่ที่นั่น มีเรื่องราวน่าสนใจมากมายที่น่านำมาเล่าต่อให้เป็นประโยชน์กับเด็ก ๆ ที่ตั้งใจจะไปเรียนที่นั่นต่อไป

และหนึ่งในเรื่องราวที่เราประทับใจ คือการได้คุยกับน้องคนหนึ่งที่กำลังเรียนอยู่ที่ University of Cambridge ที่ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น University ระดับ Top ที่สุดของโลก คำถามสำคัญที่เราถามกับเขาคือ

“มาเรียนที่นี่ เคยมีความทุกข์บ้างไหม”

และคำตอบที่เราได้รับก็คือ

“มีครับ … แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี”

น้องคนนี้เล่าให้เราฟังต่อไปว่า การเรียนที่ University of Cambirdge นั้นหนักมาก ๆ และจากการที่ได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ที่อยู่ใน University อื่น ๆ ก็ได้พบว่าเพื่อน ๆ ก็เรียนหนักไม่ต่างกัน เพราะการเรียนในระดับ University ที่เป็นระดับ World Class นั้น เขาเน้นเรื่องของการ Self-study เป็นอย่างมาก การเตรียมตัวก่อนเข้าห้องเรียน การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง การออกแบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องทำจนเป็นนิสัย เพราะที่จะมีอาจารย์มานั่งสอนเหมือนสมัยเรียน A-level หรือ IGCSE นั้น มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว มันจึงเป็นเรื่องที่หนักหนามาก ๆ เมื่อเทียบกับการเรียนในช่วงชีวิตที่ผ่านมา

น้องเขาเล่าว่าครั้งหนึ่ง การเรียนมันหนักมาก ๆ ถึงขั้นที่ทุกคนในชั้นเรียน เมื่อเรียนเสร็จ ออกไปนั่งอยู่ตรงบันไดหน้าตึก แล้วกอดคอกันร้องไห้ … แต่หลังจากที่ร้องไห้เสร็จแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองกันต่อ

เราถามน้องเขาว่า ที่ว่าผ่านไปได้ด้วยดีนั้น เป็นยังไง และคำตอบที่เราได้รับก็คือ …

“ผมว่ามี 3 สิ่งที่ทำให้ผมผ่านเรื่องราวทั้งหมดไปได้

อย่างแรก ผมชอบสาขาวิชาที่ผมเลือกเรียนมาก ๆ แม้มันจะยาก จะหนัก จะเหนื่อย จะท้อบ้างเป็นครั้งคราว แต่พอคิดถึงมันขึ้นมาทีไร ก็สนุก ก็อยากทำ ก็อยากเอาชนะ ก็อยากทำให้ดีขึ้น มันก็เลยมีสิ่งที่ทำให้เราลุกไปสู้ต่อได้อยู่เสมอ

อย่างที่สอง ผมรู้วิธีผ่อนคลายของตัวเอง เวลาที่มันเหนื่อยล้าเกินไปมาก ๆ ผมก็ไปซ้อมดนตรี หยิบกีตาร์ขึ้นมาเล่นกับเพื่อน พอได้ผ่อนคลายบ้าง ก็กลับไปลุยต่อได้แล้ว

อย่างที่สาม ผมว่าอันนี้สำคัญมาก ผมว่าเราแค่ต้องยอมรับให้ได้ว่า ความทุกข์ใจแบบนี้มันก็แค่ส่วนหนึ่งของชีวิต ยังไงมันก็จะผ่านไป และยังไงมันก็จะจบลงครับ”

บทสนทนาของพวกเรากับน้องคนนี้ในวันนั้น เป็นสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ เองก็สามารถเอามาเรียนรู้ได้ว่าเราเองจะมีชีวิตที่เป็นปกติสุขได้อย่างไร

มันสำคัญมาก ๆ ที่เราจะต้องเลือกเรียน เลือกทำในสิ่งที่เราเก่ง รัก ชอบ ถนัด และมีความสุข ทำในสิ่งที่เรา Born to be มี Passion และตรงกับเป้าหมายในชีวิต เพราะแม้หนทางจะขรุขระและเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เพราะมันเป็นทางของเรา เราก็จะผ่านมันไปได้ และตลอดเส้นทาง มันคือการเรียนรู้ ที่จะเติบโต พัฒนาตนเองไปเรื่อย ๆ ได้อย่างไม่หยุดหย่อน

แต่ไม่ใช่แค่นั้น การเลือกที่ที่ดี ที่เราจะไปเรียนและไปใช้ชีวิตอยู่ก็มีผล การที่น้องคนนี้เลือก University of Cambridge มันก็เป็นการรับประกันแล้วว่า เขาจะได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่คนที่มีความสามารถ ที่รักและหลงใหลในเรื่องเดียวกับเขา ทำให้เขายังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะ ประสบการณ์ ความรู้ และสิ่งต่าง ๆ ต่อไปได้ เพราะมีคนรอบตัวมากมายคอยสนับสนุน และเดินหน้าไปด้วยกัน

ไม่ว่าจะอย่างไร เราไม่สามารถที่จะห้ามความทุกข์ได้ เราไม่สามารถสร้างชีวิตที่ปราศจากอุปสรรคหรือปัญหาใด ๆ ได้ แต่เราจะอยู่กับมันได้อย่างเข้าใจและผ่านมันไปได้ด้วยดี ถ้าเราเลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเราเอง และเลือกที่จะอยู่ในที่ที่ดีที่สุดที่พร้อมจะสนับสนุนเราในสิ่งนั้น ๆ

เพื่อไม่ให้สายเกินไป ถ้าอายุ 13 ปีแล้ว เป็นวัยที่ความชัดเจนในตัวเองกำลังจะค่อย ๆ ก่อตัวแล้ว ควรได้ทำ Career Test เพื่อตัดทางเดินที่ไม่ใช่ทิ้งไป ให้เหลือแนวทางเพียงไม่กี่ทาง แล้วลงมือเรียนให้เต็มี่ ประกอบกับค้นคว้าและทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้มากที่สุดก่อนขึ้น Year 12 เพื่อให้ตอบตัวเองได้อย่างชัดเจน และเหลือทางที่ใช่ที่สุดสำหรับตัวเองเพียงทางเดียวเท่านั้น

เมื่อหาเส้นทางนั้นเจอแล้ว การเรียนรู้จะกลายเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต แม้จะมีความทุกข์ผ่านเข้ามา ก็จะเป็นเพียงความท้าทายที่จะทำให้ก้าวเดินต่อไปได้จนไปถึงความสำเร็จในชีวิตได้ในที่สุด

หาตัวเองให้เจอ รู้จักทุกข์อย่างเข้าใจ และมีความสุขในการเรียนรู้สิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองนะครับ

APSthai : The Best Education In Your Own Version