Top University ระดับโลกอย่าง Cambridge มีเป้าหมายในการใช้ Knowledge เป็นเครื่องมือในการพัฒนา Skills ในทุก ๆ ด้าน ที่ผู้เรียนจำเป็นจะต้องมี ในการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเขามีความเชื่อว่า คนที่จะถูกพัฒนาไปสู่จุด ๆ นั้นได้นั้น จะต้องเลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเอง Born to be เป็น Passion สูงสุด และสอดคล้องกับ Life Purpose หลัก ๆ ของชีวิตเท่านั้น

เพราะฉะนั้น 4 อย่างที่จะทำให้ได้ Offer จาก Cambridge นั้น ก็จะไม่พ้นไปจากสิ่งที่แสดงให้ Cambridge เห็นได้ว่าเราป็นคนอย่างที่เขาเชื่อว่าจะถูกพัฒนาตามเป้าหมายของเขาได้จริง ๆ และ 4 อย่างที่ว่านั้น ได้แก่

อย่างแรก ผลการเรียนที่ดี

ผลการเรียนที่ดี เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบ เป็นการแสดงออกถึงการรู้หน้าที่ และเป็นการแสดงให้เห็นว่า เรามี Skills ในการเรียนรู้ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ทำให้อนุมานได้ว่า เราเป็นคนที่เลือกเรียนในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองจริง ๆ เรื่องนี้เห็นได้ชัดเมื่อเด็ก ๆ เขาได้ทำ Career Test และเขารู้แล้วว่าความชอบของเขา ตัวตนของเขา ความถนัดของเขา คืออะไร และวิชาที่เหมาะสมที่ควรจะเลือกเรียนคืออะไร ซึ่งเมื่อลงมือเลือกเรียนในวิชาเหล่านั้นและตั้งใจอย่างเต็มที่แล้ว ก็จะได้ผลการเรียนที่ดีเป็นผลลัพธ์อันคาดหวังได้

Cambridge ก็เหมือน Top University อื่น ๆ ที่เชื่อว่าคนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีความสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้น ผลการเรียนที่ดีสำหรับ Cambridge นั้น จึงไม่ใช่แค่เกรดในระดับ 2 ปีสุดท้ายอย่าง A-level หรือ IB Diploma เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเกรดในระดับต่ำกว่านั้น เช่น เกรด IGCSE อีกด้วย หรืออย่างกรณีของนักเรียนบางคน เช่น นักเรียนของ Krutoo Homeschool ที่เพิ่งได้ Offer จาก Cambridge นั้น แม้จะมาจากระบบที่ไม่ได้มีการสอบ IGCSE แต่ Cambridge ก็จะขอดู Transcript ในระดับที่เทียบเคียงกับ IGCSE เพื่อดูความสม่ำเสมอในการเรียนตั้งแต่ต้น ซึ่งนักเรียนคนนี้ก็มีผลการเรียนในช่วงก่อน A-level ในระดับที่ดีเลิศมาก ๆ

เพราะฉะนั้น ผลการเรียนที่ดี อย่างสม่ำเสมอ คือสิ่งสำคัญประการแรก ที่จะนำไปสู่การได้ Offer ของ Cambridge

อย่างที่สอง Profile ที่ดี

การจะบอกว่าตัวเอง Born to be ในด้านไหน มี Passion ในสิ่งใด มี Life Purpose ที่เกี่ยวข้องกับอะไรนั้น ไม่สามารถทำได้ด้วยการแค่เพียงพูดลอย ๆ ใน Personal Statement หรือ Reference แต่ต้องมี Evidence ของการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ที่เรามักจะเรียกว่าการสร้าง Profile ที่ต้องถูกถ่ายทอดเป็นเรื่องราวใน Personal Statement และ Reference ว่าเราได้ลงมือทำอะไร เราได้เรียนรู้อะไร เราได้พัฒนา Skills อะไร และเราได้นำสิ่งนั้นไปต่อยอดเป็นขั้นตอนการเรียนรู้ขั้นตอนต่อไปอย่างไรบ้าง

บางครั้งเราก็เรียกสิ่งนี้ว่า Super Curricular Activities ซึ่งมีได้หลายประเภท อย่างนักเรียน Krutoo Homeschool คนที่เพิ่งได้ Offer จาก Cambridge คนดังกล่างนั้น ก็มี Profile ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับด้านที่สมัครเรียน (และอยู่ในระดับที่สูงกว่าการเรียนในระดับปัจจุบันของตนเอง) การลงมือทำ Research ในหัวข้อที่นอกเหนือไปจากตำราเรียนทั่ว ๆ ไป การประกวดแข่งขันจนได้รางวัลระดับประเทศ รวมถึงการไปฝึกงานในสถานที่จริงและมีส่วนได้ร่วมลงมือทำบางอย่างจริง ๆ ซึ่งเมื่อนำสิ่งเหล่านี้มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวใน Personal Statement และ Reference แล้ว ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า คน ๆ นี้มีเส้นทางในการเรียนรู้ เพื่อจะไปสู่การได้เข้าเรียนในสาขาวิชานี้จนประสบความสำเร็จได้อย่างไร

และนั่นคือสิ่งที่ Cambridge อยากเห็น เขาอยากเห็นว่า เราหลงใหลและเหมาะสมกับด้านที่เราจะเลือกมากแค่ไหน ผ่านสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้ทำมาในชีวิต

อย่างที่สาม คะแนน Admissions Tests ที่ดี

สิ่งที่สำคัญกว่า Knowledge คือ Skills และการวัด Skills ที่ดีที่สุดอีกทางหนึ่ง คือการสร้างข้อสอบที่ใช้สำหรับวัด Skills เฉพาะด้านของสาขาอาชีพนั้น ๆ และนี่คือสิ่งที่ Cambridge รวมถึงหลาย ๆ Top Universities ใช้เป็นหนึ่งในขั้นตอนการคัดเลือกที่สำคัญ เรียกได้ว่า ถ้าคนสองคนมีผลการเรียนที่ดีพอ ๆ กัน มี Profile ที่น่าสนใจพอ ๆ กัน ก็จะมี Admissions Tests นี้เองที่เป็นตัวตัดสิน

เราเห็นตัวอย่างในข้อนี้ได้ชัดเจนมาก ๆ จากนักเรียนของ Krutoo Homeschool คนที่เพิ่งได้ Offer จาก Cambridge นั้น ซึ่งเขาได้คะแนนในส่วนของ Admissions Tests ที่สูงเป็นระดับต้น ๆ ของโลก ประมาณ Percentile ที่ 90 กว่า ๆ ขึ้นไป จากการเปิดเผยสถิติคะแนนล่าสุด ซึ่งเมื่อดูจากสถิติคะแนนแล้วจะพบว่า คนส่วนใหญ่ทำคะแนนได้ในระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางต่ำ แสดงให้เห็นว่า Admissions Tests ของ Cambridge นั้น คัดเลือกคนที่มี Skills ที่เหมาะสมออกจากคนทั่วไปได้อย่างเด็ดขาดจริง ๆ

วิธีเดียวที่จะเอาชนะ Admissions Tests ของ Cambridge ได้ คือการลงมือฝึกฝนอย่างหนัก แต่ก็จะย้อนกลับไปที่สิ่งสำคัญที่สุดประการแรกเสมอ นั่นคือ นี่ต้องเป็นสิ่งที่เรา Born to be และมี Passion สูงสุดจริง ๆ เท่านั้น เราจึงจะสามารถเอาชนะ Admissions Tests ของ Cambridge ได้

อย่างที่สี่ Performance ตอน Interview ที่ดี

เมื่อถูกคัดกรองด้วยคะแนน Admissions Tests แล้ว คนที่พิสูจนตัวเองได้ว่ามี Skills ที่เหมาะสม จะถูกเรียก Interview ซึ่งการ Interview ของ Cambridge นั้น จะเน้นการหาคำตอบให้ได้ว่า “นี่คือคนที่ถ้ารับเข้ามาแล้ว เขาจะพัฒนา Skills ของตัวเองไปสู่ระดับสูงสุดได้อย่างที่เราตั้งเป้าหมายไว้หรือเปล่า”

การ Interview ของ Cambridge จึงไม่ใช่แค่การพูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป แต่เป็นการทดสอบว่าเรา Born to be มี Passion และ มี Life Purpose ที่สอดคล้องกับคอร์สที่เราจะเลือกเรียนหรือไม่ การทดสอบมีทั้งการถามคำถามที่เกี่ยวข้อง เพื่อทดสอบกระบวนการในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล จินตนาการ ความกล้า ความสามารถในการรับความกดดัน ความสามารถในการแข่งกับเวลา ความพร้อมที่จะเรียนรู้และเปิดใจรับฟัง ความน่ารับเข้ามาสอน และอีกหลาย ๆ อย่าง อย่างนักเรียนของ Krutoo Homeschool ที่เพิ่งได้ Offer จาก Cambridge นั้น เขาได้ผ่านการซ้อม Interview มาระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง คือการที่เขาซื่อสัตย์กับตัวเองที่เลือกเดินในเส้นทางที่ใช่ของตัวเองมาตลอด

ทั้ง Skills และ Experience ต่าง ๆ ที่ได้มาจากการเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง จะหล่อหลอมให้คน ๆ หนึ่งมีความพร้อม และทำให้การ Interview ของ Cambridge นั้น ไม่ต่างอะไรจากการที่คนคอเดียวกัน ชอบเรื่องเดียวกัน มานั่งพูดคุย ถกปัญหา และหาคำตอบไปพร้อม ๆ ถ้าเขาเห็นว่าเราเป็นพวกเดียวกับเขา เขาก็อยากจะให้ Offer และรับเราเข้าไปเรียนนั่นเอง

และนั่นคือ 4 อย่าง ที่จะทำให้ได้ Offer จาก Cambridge

อย่างไรก็ดี สิ่งเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าสิ่งที่เราเลือกเรียนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เรา Born to be ไม่ใช่สิ่งที่เป็น Passion สูงสุด และไม่ใช่สิ่งที่สอดคล้องกับ Life Purpose หลัก ๆ ของชีวิตเราจริง ๆ

เพราะฉะนั้น เลือกทางในเส้นทางที่ใช่ของตัวเองเท่านั้น แล้วความสำเร็จในทุก ๆ เรื่องก็จะเป็นความจริงได้ในที่สุด

APSthai : The Best Education In Your Own Version