วันนี้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความล้มเหลว ที่จะนำมาให้ได้อ่านกันครับ เป็นเรื่องราวของเด็กเก่งคนหนึ่ง ที่เดินกลับมาบอกเราในวันที่เขาเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้วว่า

“รู้งี้ สมัคร Cambridge ดีกว่า”

เราเจอเด็กคนนี้มาตั้งแต่อยู่ Year 9 ครับ เป็นเด็กที่ขยันมาก ๆ ตั้งใจมาก ๆ และทำเกรดในห้องเรียนได้ดีมาตลอด จนกระทั่งถึงสอบ IGCSE ก็ยังทำ A* ได้ 9 วิชาจากทั้งหมดที่สอบไป 10 วิชา พอขึ้น A-level ก็ทำคะแนนตอน Year 12 ได้ดีมาก ๆ แถมมี profile ต่าง ๆ ในชีวิตที่โดดเด่นชนิดที่เรียกว่า เราเล็งมาตลอดว่า เด็กคนนี้ยังไงก็มีลุ้นมาก ๆ ถ้าจะสมัคร Cambridge

“ไม่เอาหรอกครับ ผมกลัวทำไม่ได้”

นั่นคือสิ่งที่เด็กคนนี้พูดกับเราในวันที่เรานัดคุยกันว่าจะเลือกมหาวิทยาลัยไหนบ้าง เขาบอกเราว่าเขาดูแล้ว Cambridge น่าสนใจมากสำหรับสาขาวิชา Computer Science ที่ตัวเองต้องการจะเลือกเรียน แต่ก็คิดว่าจะไม่สมัครดีกว่า เพราะได้ยินใครต่อใครพูดกันว่าขั้นตอนการคัดเลือกโหดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสัมภาษณ์ที่คัดคนออกเยอะมาก ตัวเองไม่อยากจะไปถึงจุดนั้นแล้วเจอกับความล้มเหลว เพราะถ้าสุดท้าย Cambirdge ตัดสินใจที่จะไม่รับเขา เขาคงจะเสียใจหนักมาก

ไม่ว่าทางเราจะพยายามพูดกระตุ้นหรือคะยั้นคะยอมากเท่าไร เด็กคนนี้ก็ไม่เปลี่ยนใจ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ทุกเคสที่เราเชียร์ให้ไป Oxford Cambridge หรอกครับ เราจะเชียร์ก็ต่อเมื่อเด็กทำเหตุปัจจัยมาดี และ เด็กค้นคว้ามาอย่างดีแล้วว่าคอร์สที่ตัวเองต้องการจะเรียนใน Oxford Cambridge นั้นน่าสนใจและเป็นสิ่งที่อยากเรียนจริง ๆ ซึ่งในกรณีของเด็กคนนี้คือมีทั้ง 2 อย่างเลยคือความพร้อม และ การค้นคว้ามาอย่างดี ว่า Cambridge มีสิ่งที่ตัวเองต้องการจะเรียนจริง ๆ

เราได้กลับมาคุยกับเด็กคนนี้อีกครั้ง ในวันที่เขาได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่เลือก เรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจให้กับเราเป็นอย่างมาก เด็กคนนี้ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยทั้ง 5 ที่ที่เลือกไป แต่ไม่มีที่ไหนเลยที่เป็นมหาวิทยาลัยระดับ Top 10 ในด้าน Computer Science กลายเป็นว่าไม่ใช่แค่ Cambridge ที่เด็กคนนี้ไม่ได้เลือก แต่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่รองลงมาจาก Cambridge ในด้าน Computer Science เด็กคนนี้ก็ไม่ได้เลือกเช่นกัน

“จู่ ๆ ผมก็กลัวขึ้นมา ผมเลยเลือกที่ที่ผมมั่นใจว่าจะเข้าได้แน่ ๆ”

นี่คือคำตอบของเด็กคนนี้ในวันนั้น ซึ่งสุดท้ายเขาก็สามารถเข้าไปเรียนในที่ที่เขาเลือกได้จริง ๆ ด้วยเกรด A-level ที่สูงมากคือ A*A*A* ทั้ง ๆ ที่มหาวิทยาลัยที่สุดท้ายเขาเข้าไปเรียนนั้น เรียกเกรดแค่ระดับ ABB เท่านั้น

แล้วก็อย่างที่เล่าไปตอนแรกครับ เด็กคนนี้เดินกลับมาบอกเราในวันที่เข้ามหาวิทยาลัยไปแล้วว่า รู้แบบนี้สมัคร Cambridge ดีกว่า รู้แบบนี้สมัคร Imperial ด้วยดีกว่า ตอนนั้นไม่น่ากลัวที่จะล้มเหลวเลย ไม่งั้นตอนนี้คงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ พอถามว่าทำไม เด็กคนนี้เล่าให้ฟังว่า มหาวิทยาลัยที่ตัวเองเรียนอยู่ ณ ปัจจุบันนั้น ไม่มีหัวข้อการเรียนที่ตัวเองสนใจ งานวิจัยของอาจารย์ก็ไม่น่าสนใจ เพื่อน ๆ ที่มาเรียนก็เหมือนไม่ได้มี passion อะไร เหมือนมาเรียนไปงั้น ๆ ตัวเองก็เลยกลายเป็นตัวประหลาดไปที่ดูเหมือนจะเก่งและมี passion เกี่ยวกับ Computer Science อยู่คนเดียว รู้แบบนี้สมัคร Cambridge ดีกว่าเพราะมีเนื้อหาที่ตัวเองชอบ งานวิจัยก็ตรงกับที่กำลังสนใจ และเท่าที่รู้ เพื่อนตัวเองอีกคนที่กำลังไปเรียนด้านนี้ที่ Cambridge ก็กำลังสนุกมาก ๆ เพราะทุกคนในนั้นรักและชอบเรื่องเดียวกัน

อย่างที่เราเคยเล่าให้ฟังมาแล้วในบทความก่อนหน้านี้ คุณสมบัติเด่นอย่างหนึ่งของมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ ที่สอบเข้ายาก ๆ ก็คือ เขาจะคัดกรองคนเป็นอย่างดี ว่ามีความเหมาะสมพอที่จะเข้ามาเรียนไหม เพราะฉะนั้นสิ่งที่คนที่เข้าไปเรียนจะได้รับแน่ ๆ ก็คือสังคมที่ดี และ เพื่อนที่ชอบเรื่องเดียวกัน รักเรื่องเดียวกัน ที่พร้อมจะส่งเสริมกันและกัน และเป็น connection ที่ดีสำหรับอนาคต เราจึงเชียร์เด็ก ๆ อยู่เสมอว่าให้ไปในที่ที่ดีที่สุดเท่าที่จะไปได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ทุกคนสมควรจะได้รับจริง ๆ

เด็กคนนี้ได้แต่เสียใจ ที่ตัวเองปิดโอกาสในชีวิตตัวเอง เพราะแค่กลัวว่าจะล้มเหลว กลัวจะถูกปฏิเสธ จริง ๆ แล้วนี่อาจจะเป็นกับดักอย่างหนึ่งของคนที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมาทั้งชีวิต เพราะเรียนในห้องเรียนได้เกรดดีมาตลอด ทำอะไร ๆ มาทั้งชีวิตก็มีผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบมาตลอด ทำให้เมื่อต้องทำอะไรที่ออกนอก comfort zone หรือออกนอกขอบเขตที่จะควบคุมได้มากเกินไป แล้วก็เกิดความไม่กล้าขึ้นมา

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และครูทุก ๆ คนช่วยเด็ก ๆ กันได้ก็คือ ให้มุมมองที่ถูกต้องกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับความล้มเหลวครับ เด็กบางคนกลัวความล้มเหลว เพราะคุณพ่อคุณแม่และครู ๆ ใช้จุดนั้นในการตำหนิ เช่น เมื่อคะแนนสอบไม่ดี ก็จะตำหนิ ก็จะว่าให้เด็กรู้สึกเสียใจ รู้สึกกลัว ทำให้เด็กบางคนเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ทำยังไงก็ได้ให้ง่ายที่สุด และ ปราศจากความล้มเหลวให้มากที่สุด ซึ่งเส้นทางแบบนั้นในชีวิต จริง ๆ แล้วมันไม่มีอยู่จริงเลย

มุมมองที่ถูกต้องที่เราสามารถช่วยกันให้กับเด็ก ๆ ได้คือ เมื่อผิดพลาด เมื่อล้มเหลวแล้ว เราสามารถเรียนรู้อะไรจากตรงนั้นได้บ้าง อย่างเช่นถ้าคะแนนสอบไม่ดี จุดที่เราสามารถพัฒนาตัวเองได้คืออะไร สิ่งที่เรายังทำได้ดีกว่านี้คืออะไร การคอยให้กำลังใจกันและไม่ซ้ำเติมในเรื่องที่ผิดพลาดและช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสม นั่นย่อมทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้ได้ว่าความล้มเหลวแม้จะไม่น่าพึงพอใจ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดี ที่จะทำให้คน ๆ หนึ่งไปต่อในวันข้างหน้าได้

แม้แต่เรื่องของ Cambridge หรือมหาวิทยาลัยระดับท็อปอื่น ๆ เราจะบอกกับเด็ก ๆ อยู่เสมอว่า อย่าง Cambridge เนี่ย ถ้าเราได้รับเชิญให้ไปสัมภาษณ์ แม้สุดท้ายเราจะถูกปฏิเสธ นั่นก็นับว่าเป็นประสบการณ์ของชีวิตที่ยอดเยี่ยมแล้ว ซึ่งมีไม่กี่คนหรอกที่จะได้รับโอกาสตรงนั้น เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวความล้มเหลวอะไรเลย ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ถ้าสำเร็จก็ได้สิ่งที่ต้องการ ถ้าไม่สำเร็จก็ได้เรียนรู้ มีแต่ได้กับได้

สุดท้าย Cambridge เขียนเอาไว้ในเว็บไซต์ของตัวเอง ในส่วนของการสมัครเข้าเรียนว่า

“Don’t let the prospect of not getting a place put you off applying. We can’t offer you a place if you don’t apply to us!”

“อย่าให้ความคิดเรื่องโอกาสที่คุณจะเข้าไม่ได้ ทำให้คุณไม่ยอมสมัคร เพราะเราไม่สามารถที่จะพิจารณาที่ให้คุณได้เลย ถ้าคุณไม่ลองสมัครมาก่อน !”

เพราะฉะนั้น อย่ากลัวความล้มเหลวครับ โอกาสมาแล้วก็ทำให้เต็มที่ครับ