วันนี้มาทำความรู้จัก IGCSE และ A-level ของหลักสูตร UK กันครับ

เป้าหมายของหลักสูตร UK

หลักสูตร UK สร้างคนด้วยการพัฒนาทักษะ หรือ Skills ผ่านความรู้ หรือ Knowledge ต่าง ๆ โดยเชื่อว่าคน ๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จได้ด้วย 3 ปัจจัยหลัก ๆ คือ

  • ทำในสิ่งที่ตัวเอง Born to be
  • ทำในสิ่งที่ตัวเองมี Passion
  • มีเป้าหมายของชีวิต หรือ Life Purporse ที่อยู่บนฐานของสิ่งที่ Born to be และ มี Passion

เพราะฉะนั้น หลักสูตร UK จึงมีเรื่องของการค้นหาตัวเองให้เจอ และการเลือกในสิ่งที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล เป็นสาระสำคัญ

ก่อน IGCSE

เด็กในวัย 13 ปีนั้นเติบโตเพียงพอที่จะแสดงออกซึ่งความสนใจบางอย่าง บุคลิกลักษณะบางอย่าง และความถนัดบางอย่าง แม้จะยังไม่ถึงขั้นที่จะตอบได้ว่า โตขึ้นอยากเรียนอะไร หรือ อยากเป็นอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นวัยที่เริ่มวางแผนชีวิตอยู่บนฐานของความ Born to be และ Passion ได้

ก่อนขึ้น Year 9 จึงเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด ที่เด็ก ๆ จะได้หาตัวเองให้เจอ Career Test จึงมีบทบาทอย่างมากในช่วงนี้ โดย Career Test นั้นจะทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ว่า

  • ความชอบของเด็กนั้นคือสิ่งไหน
  • ตัวตนบุคลิกลักษณะของเด็กคนนั้นเป็นอย่างไร
  • ความถนัดแต่ละด้านของเด็กคนนั้นมากน้อยแค่ไหน

ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวางแผนการเรียน และ แผนการของชีวิต ภาพใหญ่สุดคือ อนาคตที่ยิ่งใหญ่ที่มี Life Purpose ที่ชัดเจนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ถอยลงมาคืออาชีพที่ควรทำคืออะไร คอร์สในระดับ University ที่ควรเรียนคืออะไร จนมาถึงจุดที่ใกล้ตัวที่สุดคือ A-level และ IGCSE นั้นควรเรียนอะไรบ้าง เพราะฉะนั้น Career Test จึงเป็นตัวที่จะทำให้เด็ก ๆ เลือกเรียนวิชาในระดับต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับตัวเองจริง ๆ

IGCSE

เมื่อเด็ก ๆ ทำ Career Test และรู้ว่าวิชากว้าง ๆ ที่ควรจะเรียนนั้นมีอะไรบ้าง วิชาเหล่านั้นจะถูกนำมาเลือกเป็นวิชาที่จะเรียนในระดับ IGCSE โดยเป้าหมายของ IGCSE นั้นคือ การให้เด็กได้ลองค้นคว้าในสิ่งต่าง ๆ ให้กว้างและครอบคลุมที่สุดก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นในวันข้างหน้า

ตัวอย่างเช่น ถ้าผล Career Test บอกว่า เด็กเป็นคนที่

  • เข้าใจก่อน แล้วค่อยจำ
  • เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ
  • ชอบคิดอะไรใหม่ ๆ
  • มีเหตุผล
  • มีความคาดหวัง
  • Skill ความแม่นยำสูง
  • Skill ตัวเลขสูง
  • Skill ความช่างสังเกตสูง

ก็จะทำให้กลุ่มอาชีพที่น่าสนใจ ออกมา 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

  • Bio-Chem Scientist
  • Computer Scientist
  • Financial Analyst

ซึ่งก็จะสามารถเลือกวิชา IGCSE ที่เหมาะสมได้เป็น

  • Math
  • Additional Math
  • English
  • Chemistry
  • Biology
  • Physics
  • Computer Science
  • Economics
  • Design Technology
  • German

เป็นต้น

และเพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะเลือกทางเดินของตัวเองได้อย่างถูกต้อง วิธีเดียวที่จะเป็นไปได้ก็คือ เด็ก ๆ ต้องตั้งใจทำทุกวิชาให้ดีที่สุด ซึ่งถ้าทำ Career Test มาแล้ว และเลือกวิชามาอย่างเหมาะสมแล้ว การทำให้ดีที่สุดในทุกวิชานั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากจนเกินไป เพราะฉะนั้น เพื่อให้ครอบคลุมกับทุกความเป็นไปได้ของชีวิตจริง ๆ บางโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนระดับ Top ที่ UK จะให้เด็ก ๆ เรียนมากถึง 10-12 วิชา

และเพื่อให้เด็กสามารถทำทุกวิชาได้อย่างเต็มที่แม้จำนวนวิชาที่ต้องเรียนจะมีมากมาย โรงเรียนระดับ Top ที่ UK จะให้เด็ก ๆ เริ่มทำ IGCSE ในวิชาหลัก ๆ ตั้งแต่ Year 9 แล้วค่อย ๆ ทำวิชาอื่น ๆ ที่เลือกเพิ่มเติมตอน Year 10 ทำให้เมื่อขึ้น Year 11 นั้นมีเวลาเหลือเฟือที่เด็ก ๆ จะได้ทบทวน ได้หัดทำข้อสอบเก่า จนสุดท้ายเมื่อถึงเวลาสอบตอนปลาย Year 11 ก็จะสามารถทำเกรดที่ดีออกมาได้ในทุกวิชา

และนั่นจะทำให้เด็ก ๆ ตอบได้ว่า แม้ทุกวิชาจะทำได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ชอบจริง ๆ และอยากเรียนรู้ต่อไปจริง ๆ คืออะไร และนั่นจะนำไปสู่การเลือกวิชาในระดับ A-level

A-level

เมื่อเด็ก ๆ รู้ว่าวิชาที่ทั้งทำได้ดี คือ Born to be และมีความชอบ คือ มี Passion นั้นได้แก่วิชาไหนบ้างแล้ว เมื่อประกอบกับ Life Purpose ที่อยากจะทำในอนาคตซึ่งจะเป็นตัวบอกว่าต้องเรียนคอร์สไหนในระดับ University นั้น ก็จะทำให้ตัดสินใจได้ในที่สุดว่า 3 – 4 วิชาที่ควรจะเรียนที่สุดในระดับ A-level ในช่วง Year 12 และ Year 13 นั้นคือวิชาอะไรบ้าง

เช่น ถ้าค้นพบตัวเองแล้วว่า

  • วิชาที่ชอบที่สุดและทำได้ดีมาก ๆ คือ Math, Computer Science, Physics, Chemistry
  • เริ่มเห็นเป้าหมายตัวเองที่จะเป็นผู้พัฒนา AI (Artificial Intelligence) เพื่อแก้ปัญหาบางอย่างให้กับโลกใบนี้

ก็อาจได้วิชา A-level ที่ควรเลือกเป็น

  • Math
  • Further Math
  • Computer Science
  • Physics

เป็นต้น

สิ่งที่แตกต่างกันมาก ๆ สำหรับ IGCSE และ A-level นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของจำนวนวิชาที่ต้องเรียน แต่ยังรวมถึงแนวทางของการเรียนอีกด้วย

ในระดับ IGCSE นั้น หลักการสำคัญคือ Student needs to learn in the class หมายความว่าการเรียนการสอนส่วนใหญ่เกิดขึ้นในห้องเรียน เพราะฉะนั้นถ้าเทียบสัดส่วนของ Teaching ต่อ Self-Study จะอยู่ที่ราว ๆ 80 ต่อ 20

แต่พอขึ้นระดับ A-level นั้น หลักการสำคัญคือ Student needs only understanding in the class หมายความว่าในห้องเรียนนั้นเป็นการมาทำความเข้าใจ นักเรียนจำเป็นต้องเตรียมตัวมาล่วงหน้า อ่านหนังสือมาก่อนเข้าห้องเรียน เมื่อเรียนเสร็จแล้วก็ต้องไปหาความรู้และพัฒนาทักษะเพิ่มเติม เพราะฉะนั้น ถ้าเทียบสัดส่วนของ Teaching ต่อ Self-Study แล้วจะอยู่ที่ราว ๆ 50 ต่อ 50

หากถามว่าทำไมเป็นเช่นนี้ คำตอบก็คือ เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนจะเข้าไปเรียนในระดับ University ซึ่งเป็นที่ที่เด็ก ๆ จะได้เรียนในสิ่งที่ตัวเอง Born to be มี Passion สูงสุด และสอดคล้องกับ Life Purpose ในชีวิตจริง ๆ จึงระดับที่ส่วนของ Teaching นั้นเหลือน้อยมาก ๆ และค่อย ๆ น้อยลงเรื่อย ๆ จนในปีสุดท้ายของการเรียนนั้น กลายเป็น Self-Study 100% เต็ม เพราะฉะนั้น การเตรียมตัวให้เด็ก ๆ คุ้นเคยกับการ Self-Study อย่างน้อย 50% เอาไว้ก่อนในระดับ A-level นั้น จะทำให้การเรียน University ไม่เป็นการก้าวกระโดดจนเกินไป

เพราะฉะนั้น แม้ A-level จะมีจำนวนวิชาน้อย แต่ก็มีภาระมากมายเพิ่มขึ้นที่ต้องทำ นั่นหมายความว่าการเลือกวิชา A-level ผิด จะเท่ากับเป็นการปิดโอกาสในอนาคตไปเลยทีเดียว

การเลือก A-level ผิดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่มันจะไม่เกิดขึ้นเลยกับเด็กที่ทำเหตุปัจจัยมาถูกต้อง นั่นคือ

  1. ทำ Career Test ก่อนขึ้น Year 9
  2. เอาผล Career Test มาเลือกวิชา IGCSE ให้ถูกต้องและครอบคลุม
  3. ตั้งใจทำ IGCSE ทุกวิชาให้ดีที่สุด จนรู้ไปเลยว่าสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับตัวเองคืออะไร

เพียงเท่านี้ การเลือก A-level ก็จะไม่มีวันผิด และชีวิตก็จะเดินต่อไปได้อย่างเป็นตัวเองมากที่สุด

บทสรุป

หลักสูตร UK เชื่อว่าคนที่เป็นตัวเองอย่างแท้จริง ทั้งเรื่องของความ Born to be ความมี Passion และการมี Life Purpose ที่ชัดเจน จึงจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ หลักสูตรนี้จึงเน้นเรื่องของการรู้จักตัวเอง และเลือกเส้นทางในแต่ละขั้น ๆ ในสิ่งที่เป็นตัวเราเองจริง ๆ

Career Test จึงเป็นดั่งจุดเริ่มต้น ส่วน IGCSE ก็เป็นช่วงเวลาของการค้นหาและเปิดโอกาสให้ชีวิต และ A-level นั้นก็จะเป็นช่วงของการเพิ่มความชัดเจนให้กับตัวเอง ก่อนที่จะก้าวสู่ระดับ University ต่อไป

และเพราะการเลือกสิ่งต่าง ๆ ให้ถูกต้อง รวมถึงการวางแผนให้ถูกทางนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ใครกำลังจะขึ้น Year 9 หรือเด็กกว่านั้นก็ตาม ลองเข้ามาพูดคุยกับทีมงานของ APSthai และ Krutoo เพิ่มเติม เพื่อเริ่มเดินในเส้นทางที่ดีที่สุดของตัวเองกันนะครับ เพราะทุกคนคู่ควรกับการศึกษาที่ดีที่สุด ในรูปแบบของตัวเองครับ

APSthai : The Best Education In Your Own Version