ทำไมต้อง Study in Japan? เชื่อว่าหลายคนที่มีความชื่นชอบในภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ไม่ว่าจะผ่านการฟังเพลง การอ่านมังงะ หรือดูโดราม่าก็ตาม มีความใฝ่ฝันว่าสักครั้งในชีวิตอยากไปเรียนที่ญี่ปุ่น ทำให้ในทุก ๆ ปี ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นจุดหมายปลายทางแรก ๆ ในเอเชียที่คนไทยอยากไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ประเทศญี่ปุ่น หรืออยากไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ในทวีปเอเชียก็ตาม แต่วัฒนธรรมนั้นก็มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและมีความแตกต่างจากประเทศไทยอย่างมาก เพื่อให้คนที่สนใจจะไปร่ำเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นได้รู้ประเทศญี่ปุ่นอย่างลึกก่อนตัดสินใจไป ทาง APSthai เลยโครงการ Study in Japan ที่จะช่วยให้คำแนะนำเรื่องการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น (Study in Japan) ให้กับบุคคลที่มีความสนใจ โดยจะเขียนบทความเพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจทั้งในด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่น และการศึกษาญี่ปุ่นต่อไป

ถ้าใครที่มีความสนใจในภาษาญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว จะพอทราบกันดีว่าคนญี่ปุ่นจะทักทายโดยแบ่งเป็นช่วงเวลาหลัก ๆ ของวันอยู่ 3 ช่วงเวลาด้วยกัน ตอนเช้า ตอนเที่ยงและตอนเย็น
สวัสดีตอนเช้า
おはようございます (Ohayoogozaimasu)
เป็นคำทักทายที่สุภาพ จะใช้เมื่อผู้พูดพบเจอกับอีกฝ่ายเป็นครั้งแรกของวัน โดยใช้พูดทักทายกันตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงสาย ๆ ก่อนเที่ยง โดยปกติแล้วเวลาเจอกันกับเพื่อนก็สามารถพูดสั้น ๆ ว่า おはよう (ohayoo) ได้ แต่ถ้าต้องเจอกับบุคคลที่มีฐานะทางสังคมที่สูงกว่า จะต้องใส่ ございます (gozaimasu) ลงไปด้วย
สวัสดีตอนเที่ยง
こんにちは (Konnichiwa)
เป็นการทั้งทายที่ใช้ได้ตั้งแต่ช่วงเกือบเที่ยงถึงบ่าย ๆ เย็น ๆ ข้อควรระวังในการพูดก็คือ คำว่า ん หรือเสียง n ในภาษาญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งพยางค์ ดังนั้นคำทักทายนี้จะมี 5 เสียง โดยออกเสียงว่า ko-n-ni-chi-wa เพราะฉะนั้นเพื่อให้ออกเสียงได้ถูกต้อง ต้องอย่าลืมออกเสียงให้ครบด้วยนะคะ
สวัสดีตอนเย็น
こんばんは (Konbanwa)
การทักทายด้วยสำนวนนี้ จะสามารถใช้ได้ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงกลางคืน เช่นเดียวกันกับคำว่า こんにちは (Konnichiwa) เวลาออกเสียงคำว่า こんばんは (Konbanwa) ต้องอย่าลืมออกเสียง ん หรือเสียง n ด้วยค่ะ
ที่จริงแล้วการพูดทักทายกันไม่ได้มีกฏตายตัวขนาดนั้น อีกทั้งไม่ได้มีเวลาที่ระบุชัดเจนว่าจะต้องใช้สำนวนนี้ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง แต่ถ้าเราใช้คำว่า こんばんは (Konbanwa) ในตอนเช้าก็จะดูแปลกแน่นอนค่ะ อีกทั้งสังคมญี่ปุ่นเน้นในเรื่องของฐานะทางสังคมของผู้ที่เราสนทนาด้วยอย่างมาก ก็ขอให้ระมัดระวังในเรื่องนี้เท่านั้นเองค่ะ และเมื่อได้รับการทักทายด้วยสำนวนเหล่านี้ ให้เราตอบกลับด้วยสำนวนเดียวกัน และถ้าโค้งตัวเพียงเล็กน้อย ก็จะเพิ่มระดับความสุภาพให้เรามากขึ้นไปอีกค่ะ แต่การใช้สำนวนเหล่านี้โดยปกติแล้วเราจะไม่ใช้กับคนแปลกหน้า หรือคนที่เราไม่ได้รู้จักมาก่อน เพราะวัฒนธรรมญี่ปุ่นไม่นิยมทักทายกับคนแปลกหน้าเหมือนเช่นในประเทศยุโรป หรือประเทศอเมริกา
และนอกจากการใช้สำนวนเหล่านี้แล้ว เวลาพูดคุยกับคนที่สนิทสนม เช่น คนในครอบครัว เพื่อน หรือรุ่นน้อง จะใช้สำนวนอื่นแทน เช่น どうも อ่านว่า doomo สำนวนนี้มักจะได้ยินบ่อยเวลาดูละครญี่ปุ่น
โดยปกติแล้วเวลาพบเจอกับคนที่เพิ่งหายจากอาหารเจ็บป่วย ก็สามารถใช้สำนวนที่ว่า いかがですか。(ikaga desu ka) ที่แปลได้ว่า เป็นอย่างไรบ้างก็ได้ เพื่อถามถึงอาการป่วย
หรือที่มักจะได้ยินบ่อย ๆ คือ 元気ですか。(genki desu ka) ที่แปลว่าสบายดีหรือเปล่า โดยปกติแล้วสำนวนนี้จะถามไถ่กับคนที่ไม่ได้เจอมานานและมีความเป็นห่วงเป็นใย
และอีกสำนวนที่มักจะได้ยินบ่อยคือ お疲れ (otsukare) ส่วนใหญ่แล้ว จะใช้เวลาอยู่ในที่ทำงาน สำนวนนี้มาจากสำนวน お疲れ様です。(otsukare sama desu) แปลเป็นไทยได้ว่า ขอบคุณที่ทำงานจนเหน็ดเหนื่อย เป็นสำนวนเฉพาะของคนญี่ปุ่นเลยค่ะ สามารถใช้ได้ในทุกกรณี เช่นเดินผ่านอาจารย์ก็สามารถพูดสำนวนนี้ได้
การทักทายในภาษาญี่ปุ่นนอกจากวัตถุประสงค์ที่ใช้เพื่อทักทายแล้ว ยังรวมถึงการแสดงความเคารพและความเป็นห่วงเป็นใยต่อคนอื่นได้ด้วย ถ้าได้มีโอกาสได้ทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น ก็ลองนำสำนวนเหล่านี้ไปใช้กันได้นะคะ