ทำไมต้อง Study in Japan? เชื่อว่าหลายคนที่มีความชื่นชอบในภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ไม่ว่าจะผ่านการฟังเพลง การอ่านมังงะ หรือดูโดราม่าก็ตาม มีความใฝ่ฝันว่าสักครั้งในชีวิตอยากไปเรียนที่ญี่ปุ่น ทำให้ในทุก ๆ ปี ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นจุดหมายปลายทางแรก ๆ ในเอเชียที่คนไทยอยากไปเรียนภาษาระยะสั้นที่ประเทศญี่ปุ่น หรืออยากไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ในทวีปเอเชียก็ตาม แต่วัฒนธรรมนั้นก็มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและมีความแตกต่างจากประเทศไทยอย่างมาก เพื่อให้คนที่สนใจจะไปร่ำเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นได้รู้ประเทศญี่ปุ่นอย่างลึกก่อนตัดสินใจไป ทาง APSthai เลยโครงการ Study in Japan ที่จะช่วยให้คำแนะนำเรื่องการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น (Study in Japan) ให้กับบุคคลที่มีความสนใจ โดยจะเขียนบทความเพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจทั้งในด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่น และการศึกษาญี่ปุ่นต่อไป

ใครที่กำลังวางแผนมาเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ในบทความนี้เราได้รวบรวมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายต่อเดือนมาให้ดูเพื่อพิจารณาและตัดสินใจที่จะมาเรียนได้อย่างมั่นใจมากขึ้นนะคะ โดยทั้งนี้ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะอิงจากโตเกียว เพราะฉะนั้นราคาก็จะมีความแตกต่างจากเมืองอื่นไปบ้าง แต่ก็สามารถดูไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานได้ค่ะ

ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น

  • ค่าที่พัก

ถ้าเป็นหอของโรงเรียนในโตเกียวจะอยู่ที่ 50,000 ถึง 60,000 เยน แต่ถ้าเป็นหอเอกชนรายอื่น ราคาจะอยู่ที่ 70,000 เยน ถึง 100,000 เยน ขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถอยู่หอของโรงเรียนได้ เพราะมีคนต้องการจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ถ้ามั่นใจแล้วว่าจะเข้าเรียนที่ไหน ให้ติดต่อเรื่องหอของโรงเรียนไว้เพื่อลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ค่ะ อีกทั้งยังมีค่าน้ำค่าไฟที่ในบางหอก็รวมอยู่ในค่าหอแล้ว ในบางที่ก็แยก โดยเฉลี่ยนแล้วไม่เกิน 7,000 เยน (อ้างอิงจากตัวผู้เขียนและนักเรียนที่เรียนในญี่ปุ่น)

  • ค่าเดินทาง

นอกจากนี้ เนื่องจากการเช่าหอพักใกล้โรงเรียนซึ่งอยู่ในตัวเมืองเป็นเรื่องที่ยาก อาจจะต้องเดินทางจากหอพักไปเรียนด้วยจึงมีแนวโน้มที่จะต้องจ่ายค่าเดินทางด้วย แต่สำหรับนักเรียนและนักศึกษา สามารถทำตั๋วรายเดือนได้ เช่น 3 เดือน 6 เดือน โดยขอเอกสารจากโรงเรียนและไปทำที่สถานีรถไฟ โดยค่าใช้จ่ายในส่วนของการเดินทางจะขึ้นอยู่กับว่านั่งรถไฟสายไหน ห่างจากโรงเรียนกี่สาย แต่ประโยชน์ก็คือเมื่อเราจ่ายค่าตั๋วรายเดือนที่ราคาถูกลงแล้ว เมื่อเรานั่งรถไฟสายที่เราทำ ก็จะไม่ต้องเสียเงินอีกครั้ง ยกตัวอย่าง ของผู้เขียนทำตั๋วรถไฟรายเดือนตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม เป็นระยะเวลา 6 เดือน เสียค่าใช้จ่ายทั้งหมด 20,000 เยน ในระว่างนั้นก็สามารถนั่งรถไฟไป-กลับจากบ้านไปโรงเรียนได้เท่าที่ต้องการไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแล้ว เป็นต้น

  • ค่าโทรศัพท์และ Internet

เครือข่ายโทรศัพท์ในญี่ปุ่นมี 3 บริษัท ได้แก่ docomo, au และ SoftBank เมื่อไปถึงญี่ปุ่นแล้วก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเลยค่ะ แต่อย่างผู้เขียนใช้ SoftBank ก็จะมีราคาให้เลือก 2 แบบคือ Unlimited ราคา 7,238 เยน และแบบธรรมดา 4,928 เยน อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนด้วยค่ะ

  • ค่ากินและค่าใช้จ่ายส่วนอื่น

ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่นและออกไปกินข้าวข้างนอกบ้านทุกวัน ขั้นต่ำจะอยู่ที่ประมาณ 400 เยน และสูงสุดถึง 2,000 เยนต่อมื้อ ขึ้นอยู่กับว่าเราพอใจในแบบไหน แต่ถ้ามาเป็นนักเรียนแนะนำว่าให้ทำอาหารกินเองค่ะ โดยเฉลี่ยแล้วถ้าเราใช้จ่าย 3,000 เยนเพื่อซื้อของ เราสามารถอยู่ได้ทั้งอาทิตย์ รวมมื้ออาหารเช้าถึงเย็น แต่ราคาของค่ากินและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของตัวนักเรียนด้วย เพราะฉะนั้นไม่สามารถบอกราคาที่แน่นอนให้ได้ แต่จะมีราคาโดยประมาณของสินค้าที่มีความจำเป็นให้ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ค่ะ

ProductsPrice
ข้าว(5Kg)1,972เยน
ขนมปัง(1Kg)479เยน
นม (1,000ml)212เยน
ไข่ไก่ (10 ฟอง)227เยน
แอปเปิ้ล (1Kg)847เยน
กะหล่ำปลี (1Kg)146เยน
น้ำอัดลม (1ℓ)195เยน
แฮมเบอร์เกอร์214เยน
กระดาษชำระ (1,000m)695เยน
ค่าเข้าโรหนัง3,658เยน
แท็กซี่ (4Km)1,519เยน
  • ค่าประกัน

ในส่วนของประกันในช่วงที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉลี่ยแล้วจะต้องจ่าย 3,000 เยนต่อเดือน ทั้งนี้เราสามารถเลือกจ่ายแบบรายปีก็ได้ หรือรายเดือนก็ได้ เมื่อเวลาที่เราต้องเข้าโรงพยาบาล เราสามารถใช้บัตรนี้ได้เลยและจ่ายเองเพียงแค่ 30% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่านั้น

ในส่วนของค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าท่องเที่ยวหรือกิจกรรมส่วนตัวของตัวเอง ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีรสนิยมแบบไหนอาจจะไม่สามารถชี้แจงเป็นรายละเอียดได้ค่ะ