เด็กคนหนึ่งเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเลือกวิชา A-level ผิด หลังจากที่เข้าไปดู Course ที่ตัวเองสนใจใน University แห่งหนึ่งว่าวิชาที่เขาต้องการให้มีในระดับ A-level คือวิชาอะไรบ้าง

เรื่องนี้อาจจะยังไม่เป็นปัญหาเท่าไร ถ้าวันที่เด็กคนนี้รู้ตัวคือช่วงก่อนเปิดเทอม Year 12 ที่ยังสามารถไปคุยกับโรงเรียนและขอเปลี่ยนวิชา A-level ที่เคยเลือกเอาไว้ได้

น่าเสียดาย ที่วันที่เด็กคนนี้รู้ตัว คือวันที่ตัวเองกำลังจะเปิดเทอม Year 13 และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว

เราเคยเจอเด็กอีกคนหนึ่ง ที่ตัดสินใจเลือกวิชา A-level ให้ครอบคลุม 2 Career ที่ตัวเองไม่แน่ใจ แล้วพอถึงเวลาที่ตัดสินใจได้ มันก็ใกล้ช่วงยื่น UCAS Application มาก ๆ แล้ว และเมื่อหันกลับไปมองก็พบว่า ความไม่ชัดเจนของตัวเอง ทำให้การเก็บ Profile ที่ผ่านมาของตัวเองนั้นสะเปะสะปะ และด้วยเวลาที่เหลือ ก็เก็บ Profile เน้นไปด้านใดด้านหนึ่งไม่ทันแล้ว

มันน่าเศร้า ที่บางคนจะไปต่อในสิ่งที่ตัวเองต้องการไม่ได้ เพียงเพราะว่าตัดสินใจและลงมือหาข้อมูลช้าเกินไป

ในการเลือก Course/Uni เราต้องรู้อะไรบ้าง

การตัดสินใจว่าจะเรียน Course ไหน ใน University ไหนนั้น เราต้องเข้าไปดูในเว็บไซต์ของเขา และหาคำตอบของ 2 อย่างนี้ให้เจอ

อย่างแรก Entry Requirements และ Selection Process สิ่งเหล่านี้ได้แก่

  • วิชาที่ต้องเลือก และวิชาที่ห้ามเลือกใน A-level หรือ IB คืออะไร
  • วิชาที่เขาบอกว่ามีก็ดี ไม่มีก็ได้ คืออะไร (ความหมายที่แท้จริงของการเขียนแบบนี้คือ นี่คือวิชาที่ต้องมี ใคร ๆ เขาก็มีกัน)
  • เกรดที่ต้องได้คือเท่าไร (และนี่คือเป้าหมายขั้นต่ำของ Predicted Grades ที่เราจะต้องได้)
  • เกรด IGCSE มี Requirements อะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ถ้าเราได้มาไม่ถึง ต้องทำอย่างไร
  • ต้องมีการสอบ Admissions Tests หรือไม่ สอบตัวไหน สอบเมื่อไร สอบอย่างไร สมัครอย่างไร
  • ต้องมีการส่ง Additional Assessments หรือไม่ ส่งอะไร ส่งเมื่อไร ส่งอย่างไร
  • ต้องมีการ Interview หรือไม่ เป็นแบบไหน ทำเมื่อไร ทำอย่างไร
  • ภาษาอังกฤษต้องได้เท่าไร
  • ฯลฯ

เราจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเหล่านี้ล่วงหน้า เพื่อเอากลับไปตรวจสอบว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเราเป็นเช่นไร เราเลือกวิชาถูกต้องหรือไม่ และเราจะวางแผนในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ถึงตาม Entry Requirements และ Selection Process ของเขาอย่างไร

อย่างที่สอง สิ่งที่เขามองหาคืออะไร

Top Universities ทั้งหลาย มีเป้าหมายสูงสุดในการพัฒนา Skills ของคน ๆ หนึ่งให้ไปถึงระดับสูงสุดในทุก ๆ ด้าน ซึ่งเขามีความเชื่อว่าการที่คน ๆ หนึ่งจะถูกพัฒนา Skills ไปจนถึงระดับสูงสุดได้นั้น คน ๆ นั้นจะต้องได้ทำในสิ่งที่ตัวเอง Born to be มี Passion สูงสุด และตรงกับเป้าหมายหรือ Life Purpose ของชีวิต

เมื่อเราอ่านในเว็บไซต์ของเขา เราต้องตีความให้ออกจากทั้ง Course Structure ของเขาและจากข้อความในส่วนอื่น ๆ ของเว็บไซต์เขาว่า เขาต้องการคนที่มีทักษะ ความรู้ และประสบการณ์แบบไหนเข้าไปเรียน และเราต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาออกแบบ Super Curricular Activities ของเราในช่วงเวลาที่เหลือก่อนยื่น UCAS Application ว่า

  • เราจะทำการ Reading หนังสืออะไรบ้าง
  • เราจะลงมือ Research เรื่องอะไรบ้าง
  • เราจะสร้าง Project อะไรขึ้นมาบ้าง
  • เราจะเข้าร่วม Competition หรือชิง Award อะไรบ้าง
  • เราจะลงเรียน Short Course อะไรบ้าง
  • เราจะไป Summer School อะไรบ้าง
  • เราจะทำ Work Experience อะไรบ้าง

แล้วเราจะได้นำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาเป็น Personal Statement และเป็นข้อมูลในการเขียน Reference สำหรับคุณครูที่โรงเรียน เพื่อให้เรามี Personal Statement และ Reference ที่ดีที่สุดต่อไป เพื่อทำให้ Universities ทั้งหลายเชื่อว่า เรา Born to be มี Passion และเลือกทำในสิ่งที่ตรงกับ Life Purpose ของเราจริง ๆ

ก่อนขึ้น Year 12 คือช่วงเวลาในการตัดสินใจครั้งสุดท้าย

ถ้ารอให้ถึงช่วงก่อนเปิดเทอม Year 13 แล้วค่อยตัดสินใจว่า จะเรียน Course ไหนใน University ไหน วันนั้นเราอาจต้องพบกับความผิดหวังที่ได้รู้ว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เราเลือกและเตรียมมานั้นมันใช้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวิชาที่ผิด หรือการเตรียม Super Curricular Activities ต่าง ๆ เอาไว้ไม่เพียงพอ

ก่อนเปิดเทอม Year 12 คือช่วงเวลาในการตัดสินใจครั้งสุดท้าย เราต้องรีบเข้าไปดู ว่าเราจะเรียน Course ไหน ใน University ไหน แล้วรีบสำรวจตัวเองว่า เราเลือกวิชามาถูกต้องหรือไม่ และเรากำลังเตรียม Profile ต่าง ๆ มาอย่างถูกทางหรือไม่

ถ้าเราเลือกวิชามาไม่ตรง ให้รีบคุยกับโรงเรียน เพราะการเปลี่ยนวิชาต่าง ๆ ยังเป็นไปได้ในช่วงนี้ ส่วนเรื่อง Profile ก็รีบวางแผนว่าใน 1 ปีที่เหลือจะต้องทำอะไรบ้างในช่วงไหน การวางแผนเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะภาระในการเรียน A-level และ IB นั้นไม่น้อยเลยทีเดียว การรู้ล่วงหน้า วางแผนให้ดี และลงมือทำตามแผนเท่านั้น ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้

ก่อนเปิดเทอม Year 12 หมดเวลาในการเผื่อเลือกแล้ว การตัดสินใจว่าจะเลือก Course ที่สนใจสัก 2-3 อย่างไปก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีในภายหลัง จะทำให้เราไม่สามารถทุ่มเทให้กับสิ่ง ๆ หนึ่งได้ การที่ไม่สามารถทุ่มเทได้ สุดท้าย Profile ที่ได้จะไม่มีวันดีพอที่จะทำให้เราได้เรียนในสิ่งที่เราต้องการได้สำเร็จ

และหากใครมีแผนจะยื่น Application ในหลายประเทศ ต้องอย่าลืมว่าแต่ละประเทศมีความเชื่อไม่เหมือนกัน มีลักษณะของคนที่เขาต้องการไม่เหมือนกัน มีรูปแบบการเรียนการสอนที่ไม่เหมือนกัน ถ้าไม่รีบตัดสินใจ ก็จะเตรียม Profile ผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้น ก่อนเปิดเทอม Year 12 ก็เป็นจุดสุดท้ายในการตัดสินใจว่าจะเลือกประเทศไหนบ้าง

สุดท้ายนี้ ยิ่งตัดสินใจได้เร็ว ก็ยิ่งมีเวลาเตรียมตัวทุกอย่างให้ตรงกับที่ควรจะเป็นมากขึ้น หากการตัดสินใจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อยู่ Year 11 ลงไป นั่นก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดี สุดท้ายแล้วคนที่เข้า Top Universities ใน Course ที่ตัวเองต้องการได้สำเร็จ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นมาเป็นเวลานานพอที่จะเก็บสะสม Profile และ Experience ต่าง ๆ และพัฒนา Skills จนไปถึงจุดที่ Top Universities มองเห็นได้ว่า คน ๆ นี้คือคนที่ใช่จริง ๆ กันทั้งนั้นครับ

ใครถึงเวลาต้องตัดสินใจ ตัดสินใจได้แล้วนะครับ ถ้าไม่แน่ใจว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี เข้ามาพูดคุยกับทีม Krutoo/APSthai ได้เลยครับ

APSthai : The Best Education In Your Own Version