เรียน University ต่างจากเรียน A-level หรือ IB อย่างไร

จบ A-level หรือ IB แล้ว ถ้าได้ผลอย่างที่ตั้งใจเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้ก็ได้เวลาสำหรับก้าวต่อไปของชีวิต นั่นคือการเรียนในระดับ University ซึ่งจะมีเรื่องราวมากมายที่รอเราอยู่ และมันต่างจากการเรียน A-level หรือ IB โดยสิ้นเชิง

ใครกำลังจะไปเรียน University ในอีกไม่กี่วันนี้ ลองอ่านเพื่อเตรียมตัวให้ดีนะครับ

ลาก่อน Specification, Past Papers, และ Mark Scheme

ตอนเรียน A-level หรือ IB เคล็ดลับสำคัญที่จะทำให้ได้เกรดที่ดีที่สุด คือ เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดตาม Specification ให้ได้ แล้วซ้อมทำ Past Papers ให้เยอะ แล้วใช้ Mark Scheme ให้เป็นเพื่อให้รู้ว่าวิธีตอบให้ได้คะแนนนั้นต้องทำอย่างไร

ซึ่งสิ่งเหล่านี้แทบจะไม่มีเลย หรืออาจถึงกับไม่มีเลย สำหรับการเรียนในระดับ University

หากถามว่าสิ่งที่อาจารย์จะสอนในหัวข้อต่าง ๆ มาจากหนังสือเล่มไหน คำตอบคือ มันอาจมาจากหนังสือเล่มไหนก็ได้บนโลกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆ บางคนอาจเริ่มได้รับคำแนะนำจาก University แล้วว่าให้เตรียมอ่านหนังสือเล่มไหนไปล่วงหน้า แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ตัวอย่าง การเรียนการสอนจะไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่นั้น

บางคนอาจได้ตัวอย่าง Past Papers จากรุ่นพี่มาแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีเลยว่าข้อสอบจะออกเหมือนเดิม และเรื่องของ Mark Scheme นั้นก็ลืมไปได้เลย เพราะของแบบนี้จะไม่มีอย่างเป็นชิ้นเป็นอันอีกต่อไป

ที่เป็นเช่นนี้ เพราะการเรียนในระดับ University นั้นคือการฝึกเราให้เป็นผู้เรียนรู้อย่างแท้จริง หรือ True Learner ซึ่งต้องสามารถเรียนรู้ได้จากทุกสิ่งทุกอย่าง และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เข้าใจในสิ่งที่ต้องเรียนให้ได้ โดยไม่ติดอยู่กับหนังสือ ตำรา ข้อสอบเก่า สรุปย่อ หรือสิ่งใด ๆ ก็ตาม

ใครชอบเรียนเรื่องที่ตัวเองเลือกมาเรียน รับรองได้เลยว่าสนุกแน่นอน เพราะจะไม่มีข้อจำกัดใด ๆ อีกต่อไป แต่ใครเลือกเรียนในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองสักเท่าไร ก็อาจจะเหนื่อยมากหน่อยครับ

ไม่เตรียมตัวก่อนเข้าห้องเรียน ก็จะเรียนไม่รู้เรื่อง

สมัยเรียน A-level หรือ IB เรียนในห้องเสร็จ ถ้าไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ยังพอจะไล่ตามให้ทันได้ ด้วยการอ่านหนังสือย้อนหลัง หรือการใช้ตัวช่วยอย่างการเรียนพิเศษ

แต่สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นไปไม่ได้เลย ในการเรียนระดับ University

เป้าหมายของ World Class Education คือเอาคน ๆ หนึ่งเข้ามาพัฒนา Skills ในทุก ๆ ด้านให้ไปถึงระดับสูงสุด ซึ่ง Skills ที่ต้องมีในระดับ Bachelor Degree นั้นก็คือ Learning Skills และส่วนประกอบของ Learning Skills ที่จำเป็นที่สุด นั่นคือ เรื่องของการทำ Self-Studying

เพราะฉะนั้นความคาดหวังของ University คือ เราต้องศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง หรือ Self-Studying ให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเข้าห้องเรียนในแต่ละครั้ง และด้วยความคาดหวังแบบนั้น การเรียนในห้องเรียนจะเป็นการเจาะลึก ยกตัวอย่าง ยก Case Study ทันที โดยไม่มานั่งปูพื้นฐานกันใหม่ นั่นหมายความว่าถ้าเราไม่เตรียมตัวไปก่อน เราก็มีความเสี่ยงที่จะฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลย

การเตรียมตัวก่อนเข้าห้องเรียน ด้วยการอ่านหนังสือด้วยตัวเอง ค้นคว้าในที่ต่าง ๆ หรือพูดคุยกับคนที่รู้เรื่องราวเหล่านี้ จะไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับคนที่เลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเอง Born to be มี Passion และตรงกับ Life Purpose ของชีวิตตัวเอง ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบเสียแล้ว แค่เรียนธรรมดายังยากเลย การอ่านหนังสือเองเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเข้าห้องเรียนนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร

มีอะไรเยอะแยะมากมาย ที่จะพาเราออกนอกลู่นอกทาง

เพื่อนใหม่ สังคมใหม่ เมืองใหม่ กิจกรรมใหม่ ทุกอย่างล้วนดูน่าตื่นตาตื่นใจ หลาย ๆ คนใช้เวลาไปกับหลายสิ่งหลายอย่าง จนเวลาที่มีให้กับการเรียนนั้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จนผลลัพธ์ในท้ายที่สุดของบางคนนั้นกลายเป็นการเรียนไม่จบและต้องออกกลางทาง

แน่นอนว่า การเรียนระดับ University นั้น เราก็ไม่ควรที่จะเรียนเพียงอย่างเดียว เพราะนี่ก็เป็นโอกาสหนึ่งในชีวิตที่เราจะได้มีประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย เราสมควรจะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ สนุกสนาน ร่าเริง มีความสุข แต่ที่สำคัญที่สุดคือเราจะต้องไม่ทิ้งหน้าที่หลักของตัวเอง นั่นคือการเรียน

ความสามารถในการควบคุมตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญ และถ้าทำได้ดี เรียนก็เรียน เล่นก็เล่น พักก็พัก โดยไม่กระทบต่อกัน นั่นก็จะทำให้เราได้ทักษะที่สำคัญติดตัวไปในวันข้างหน้าที่เราเข้าสู่โลกของการทำงาน แต่ถ้าเราพ่ายแพ้เสียแต่วันนี้ ปล่อยตัวเองไหลตามไปสิ่งเพลิดเพลินบันเทิงใจทั้งหลายจนเกินควร นอกจากจะไม่ได้ทักษะที่ควรจะมีแล้ว อนาคตก็อาจมืดมนเอาได้

อย่างไรก็ดี คนที่เลือกเรียนในสิ่งที่ใช่ หลงใหล และสนุกที่ได้เรียนรู้นั้น มักจะควบคุมตัวเองได้ดีกว่า หรือบางทีอาจไม่จำเป็นต้องควบคุมตัวเองเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะมีความสุขที่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองเลือก โอกาสที่จะออกนอกลู่นอกทางจนมากเกินไปก็มีน้อยกว่าคนที่เข้ามาเรียนไปงั้น ๆ โดยไม่ได้รักไม่ได้ชอบแต่อย่างใด

ใครกำลังจะเปิดเทอม University ในอีกไม่กี่วันนี้ ก็ขอให้ตั้งใจให้ดี ที่จะทำให้ดีที่สุด ระหว่างทางนั้น ความเหนื่อย ความหนัก ความท้อ ย่อมผ่านเข้ามา เป็นธรรมดาของชีวิต แต่ถ้าสิ่งที่เลือกมานั้นเป็นสิ่งที่รัก ที่ชอบ ที่อยากจะทำจริง ๆ แล้ว สุดท้ายทุกคนก็จะผ่านมันไปได้ เพราะเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น มันยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นเอาเสียมาก ๆ

อุปสรรคก็เรียนรู้ ความสำเร็จก็เรียนรู้ ทุกอย่างในชีวิตมีไว้เรียนรู้

ขอให้สนุกกับการเรียนรู้ ในทุก ๆ ก้าวต่อไปของชีวิตนะครับ

APSthai : The Best Education In Your Own Version