ยิ่งโตขึ้น ยิ่งมีกิจกรรมหลายอย่างเข้ามาในชีวิต ในขณะเดียวกันภาระก็มากขึ้น เวลาก็น้อยลง การเลือกทำสิ่งต่าง ๆ ให้เหมาะสม จึงเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งสู่ความสำเร็จในชีวิต

และ DofE หรือ Duke of Edinburgh ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ถูกถามถึงมากที่สุด ว่าคุ้มค่าท่ีจะทำหรือไม่ ทำแล้วได้ประโยชน์อย่างไร ทำแล้วจะเป็นที่ถูกใจของ Top University ต่าง ๆ หรือไม่ เพราะฉะนั้น เรามารู้จัก DofE กันก่อนครับ

DofE คือโปรแกรมเพื่อพัฒนาชีวิต

ชีวิตมีหลายด้าน และ DofE คือโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมอันหลากหลายเพื่อพัฒนาชีวิตให้สมบูรณ์แบบ โดยหลัก ๆ แล้วแบ่งกิจกรรมเป็น 5 ประเภท คือ

  • Volunteering คือการเป็นอาสาสมัคร ช่วยเหลือสังคม
  • Physical คือการเล่นกีฬา การออกกำลังกาย หรือการพัฒนาร่างกายในด้านต่าง ๆ
  • Skills คือการพัฒนาทักษะ (ที่ไม่ซ้ำกับด้าน Physical)
  • Expedition คือการออกไปเดินทาง สำรวจ ผจญภัยต่าง ๆ
  • Residential คือการไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนที่เราไม่รู้จักมาก่อน

หลักการของ DofE คือ เด็ก ๆ จะต้องทำกิจกรรมเหล่านี้ให้ครบถ้วนตามเงื่อนไข และ ระยะเวลาที่กำหนดไว้ ก็จะได้รับรางวัลในระดับต่าง ๆ

ระดับของ DofE : Bronze, Silver, Gold

Award ที่จะได้จากการทำ DofE สำเร็จ แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ Bronze, Silver, Gold ขึ้นอยู่เงื่อนไข และ ระยะเวลาทั้งหมดที่เด็ก ๆ ใช้ไปกับกิจกรรมต่าง ๆ โดยที่

  • Bronze ทำได้ตั้งแต่อายุ 14 ปีขึ้นไป ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน สำหรับการทำกิจกรรม 4 ประเภทแรก (ไม่ต้องทำ Residential)
  • Silver ทำได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 12 เดือน สำหรับการทำกิจกรรม 4 ประเภทแรก (ไม่ต้องทำ Residential)
  • Gold ทำได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 18 เดือน สำหรับการทำกิจกรรมทั้ง 5 ประเภท

โดยในแต่ละระดับก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีก ยกตัวอย่างเช่น จำนวนเดือนที่ต้องทำ Volunteering ในแต่ละระดับก็จะไม่เท่ากัน หรือการไปทำ Expedition ก็จะมีจำนวนวัน จำนวนคืน และเงื่อนไขของที่ที่จะไปในแต่ละระดับที่ต่างกันไป

ทั้งนี้เด็ก ๆ สามารถไล่ทำตั้งแต่ Bronze ขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ได้ (และจะจบแค่ระดับไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำจนสุดถึง Gold) หรือจะข้ามไปเริ่มที่ระดับที่ต้องการเลยก็ได้เช่นกัน

ทำ DofE แล้ว เพิ่มโอกาสในการเข้า Top University ต่าง ๆ หรือไม่

หลาย ๆ คนเชื่อว่า DofE ทำแล้วจะทำให้ Top University ชอบเรามากขึ้น หลาย ๆ คนมั่นใจว่าการเขียนว่าทำ DofE ใน Personal Statement หรือการพูดถึงในการ Interview จะทำให้ Top University สนใจเรามากขึ้น … น่าเสียดายว่านั่นไม่ใช่ความจริง

ทุก ๆ ปี จะมีคนมากมายบนโลกที่ทำ DofE เพราะฉะนั้น การที่เราทำ DofE จึงไม่ได้ทำให้เราโดดเด่นขึ้นในสายตาของ Top University แม้เราจะไปทำไปถึงระดับ Gold ก็ตาม เพราะก็มีคนไม่น้อยเช่นกันที่ทำได้ถึงระดับ Gold เหมือนกับเรา

ถ้าอย่างนั้น แปลว่า DofE ไม่มีประโยชน์ใช่หรือไม่ ? … นั่นก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน

การตั้งใจทำ DofE เราจะได้พัฒนาตัวเองมากมายในหลาย ๆ ด้าน เราจะมีจิตใจที่พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น เราจะมีร่างกายที่แข็งแรง เราจะมีทักษะที่รอบด้าน เราจะมีความกล้าหาญ และเราจะอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมได้ดีขึ้น และนี่เองที่จะทำให้เราทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมากมายเพราะเราฝึกฝนพื้นฐานด้านสำคัญต่าง ๆ ของชีวิตเป็นอย่างดี ก่อนที่จะไปใช้ชีวิตในระดับ University และในโลกของการทำงานต่อไป

บทสรุปคือ ถ้าจะทำ DofE เพียงเพื่อจะให้ Top University เขาถูกใจเรา ก็อย่าทำครับ ไม่มีประโยชน์

แต่ถ้าจะทำ DofE เพื่อที่จะพัฒนาตนเอง ให้เป็นคนที่ดีขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น ก็ทำเลยครับ เชียร์สุดใจครับ