Oxbridge และ Top UK University ต้องการคนเก่งที่หาตัวเองเจอ คนที่ทำในสิ่งที่ตัวเอง Born to be และมี Passion สูงสุด รวมถึงมีเป้าหมายของชีวิตหรือ Life Purpose ที่ชัดเจน จะเป็นคนที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก ทั้งการสมัครเข้าเรียนที่ Oxbridge/Top UK University การเรียนจบด้วยผลงานที่ดี และการมีชีวิตที่ยอดเยี่ยม
Oxbridge และ Top UK University จะมองหาความ Born to be ความมี Passion และการมี Life Purpose นี้ ผ่านสิ่งสำคัญ 5 อย่างได้แก่
- Academic Profile ก็คือการทำเกรดให้ดีในทุกช่วง
- Personal Statement การเขียน Essay เพื่อทำให้ University เชื่อว่าเรามี Skill และ Experience ที่เหมาะสม และมี Passion กับสิ่งที่จะเลือกเรียนจริง ๆ
- Reference เพื่อให้ University เห็นมุมมองจากคุณครูว่าเรามีคุณสมบัติอย่างที่เขียนไว้ใน Personal Statement จริง ๆ
- Extra Assessments คือการวัดผลเพิ่มเติมจากการสอบ หรือการส่งงาน เพื่อดูว่าเรามี Skill ที่เหมาะสมกับการเรียนด้านนั้น ๆ
- Interview เพื่อค้นหาเพิ่มเติมว่าเราคือคนที่ใช่สำหรับสิ่งที่กำลังจะเลือกจริง ๆ
ซึ่งทั้ง 5 อย่างนั้น ต้องเริ่มเตรียมในเวลาที่เหมาะสม การเตรียมช้าไป หรือการไม่เข้าใจขั้นตอนที่ถูกต้อง จะนำไปสู่การมี Profile ที่ไม่น่าสนใจ และทำให้การเข้า Oxbridge และ Top UK University นั้นไม่ประสบผลสำเร็จได้
Academic Profile

เพื่อให้มี Academic Profile ที่ยอดเยี่ยม ก็ต้องเริ่มจากการเลือกวิชาเรียนที่ถูกต้อง ก่อนขึ้น Year 9 จึงต้องทำ Career Test เพื่อให้รู้จักตัวเองว่าความชอบคืออะไร ตัวตนคือแบบไหน ความถนัดคือด้านใด แล้วจึงเลือกวิชา IGCSE ให้ครอบคลุมที่สุดตามผลที่ได้จากการทำ Career Test นั้น
เมื่อเลือกวิชาที่ตรงกับความเป็นตัวเองที่สุดแล้ว การเรียนรู้วิชาเหล่านี้ล่วงหน้าย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เราควรตั้งเป้าที่จะเรียน IGCSE 50% ของวิชาหลัก ๆ ให้จบตั้งแต่ Year 9 แล้วพอขึ้น Year 10 ก็เรียน IGCSE ล่วงหน้าให้จบอีก 50% ที่เหลือ
ประโยชน์ของการทำเช่นนี้คือ พอขึ้น Year 11 เราสามารถใช้เทอมแรกในการทบทวนเนื้อหา และใช้เวลาในเทอมสองในการซ้อมทำ Past Papers ให้เยอะที่สุดจนเกิดความคุ้นเคย พอถึงเทอมสามที่ต้องสอบ IGCSE ก็จะสามารถทำข้อสอบได้ และมีโอกาสได้ A* เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็น Academic Profile ที่ดี ที่ Oxbridge และ Top UK University มองหา
เพื่อรับมือกับเนื้อหาที่ยากขึ้นและภาระหน้าที่มากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อสอบ IGCSE จบแล้ว ก่อนขึ้น A-level ก็ควรเรียนเนื้อหาล่วงหน้า ซึ่งเมื่อเหลือแค่ 3-4 วิชาที่ชอบที่สุดแล้ว การเรียนล่วงหน้าย่อมเป็นไปได้ เมื่อเรียนล่วงหน้าแล้ว การสอบ AS-level ตอนจบ Year 12 ก็จะเป็นเรื่องง่าย ซึ่งจะส่งผลต่อ Predicted Grade ที่ดี เป็น Profile ที่ทำให้ Oxbridge และ Top UK University สนใจ จนเขาให้ Offer เรามา และเมื่อให้ Offer มาแล้ว การทำเกรดให้ได้ตามที่เขาต้องการก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเราเลือกวิชาถูกต้อง เรียนล่วงหน้า และมีพื้นฐานที่ดี สุดท้ายการทำเกรด A-level ตอนจบ Year 13 ให้ได้เกรดสูงสุด ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน
การเร่ิมต้นอย่างถูกต้อง และการเข้าใจสิ่งที่ต้องทำในแต่ละขั้นตอน จะทำให้การได้ Academic Profile ที่ดีนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้อย่างแน่นอน
Personal Statement และ Reference

Personal Statement และ Reference คือสิ่งที่สะท้อนความเหมาะสมของเรา ว่าเรา Born to be มี Passion และ มี Life Purpose ที่ชัดเจนมากแค่ไหน เพราะฉะนั้น Career Test จะเป็นจุดตั้งต้นที่เหมาะสมที่จะช่วยบอกได้ว่า สิ่งที่เหมาะกับตัวเราจริง ๆ นั้นคืออะไรบ้าง
หลังจากทำ Career Test แล้ว เมื่อขึ้น Year 9 เราสามารถเริ่มทำ Super Curricular Activities ต่าง ๆ ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น Reading, Research, Project, Competition ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีอีก 2 อย่างที่เป็น Super Curricular Activities ที่เราสามารถทำได้และควรทำเป็นอย่างย่ิงนั้น ก็คือ Summer School และ Work Experience
เพื่อให้เข้า Summer School ดี ๆ ที่ต่างประเทศได้ตอนช่วงปิด Summer ก่อนขึ้น Year 12 เราควรใช้เวลาตลอด Year 10 ในการเริ่มเขียน Personal Statement Draft แรก พอขึ้น Year 11 ก็ยื่น Personal Statement ประกอบการสมัคร Summer School ที่จะไปก่อนขึ้น Year 12 (ปกติการสมัครใช้เวลาล่วงหน้าประมาณ 1 ปี) เราก็จะมีโอกาสได้ไป Summer School ดี ๆ ที่เป็น Super Curricular Activities ให้เราได้
ในทำนองเดียวกัน พอขึ้น Year 11 เราก็ควรเริ่มทำ Personal Statement Draft 2 เพื่อที่จะใช้สมัคร Summer School ตอนช่วงต้น Year 12 ที่จะไปก่อนขึ้น Year 13
ทั้ง Personal Statement ใน Draft แรกและ Draft ที่สองนั้น นอกจากจะใช้สมัคร Summer School ในช่วงที่เหมาะสมได้แล้ว ยังสามารถใช้สมัคร Work Experience ที่น่าสนใจในที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
และสุดท้าย พอขึ้น Year 12 เราก็ควรเริ่มทำ Personal Statement Draft 3 เพื่อที่จะใช้สมัคร Oxbridge และ Top UK University ผ่าน UCAS ตอนช่วงต้น Year 13 เพื่อจะไปเรียนหลังจากจบ Year 13 นั่นเอง
การพัฒนา Personal Statement สม่ำเสมอตั้งแต่ Year 10 เป็นต้นไป จะทำให้เรามี Personal Statement ที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จาก Skills, Experience, และ Profile ต่าง ๆ ที่เรามีมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เองนอกจากจะมีประโยชน์ต่อการสมัคร UCAS โดยตรงแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อการพัฒนา Reference ของคุณครูในโรงเรียนอีกด้วย
ปกติแล้วคุณครูที่โรงเรียน จะเริ่มพัฒนา Reference ของเราตั้งแต่เราขึ้น Year 12 โดยมีโจทย์ว่าจะต้องใช้เวลา 1 ปีในการทำความรู้จักกันแล้วเขียน Reference ออกมาให้ดีที่สุดเพื่อใช้ยื่น UCAS ตอนต้น Year 13 ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณครูรู้จักเรามากพอและเขียน Reference ออกมาได้ดีพอ ก็คือการเอา Personal Statement ที่เราพัฒนามาแล้ว 2 Draft ให้คุณครูได้อ่าน คุณครูก็จะเขียน Reference ได้ตรงกับความเป็นตัวเรามากที่สุด และยังช่วยแนะนำเราในการเขียน Personal Statement Draft ที่ 3 ได้อีกด้วย
การเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ และพัฒนา Personal Statement ของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เรามีทั้ง Personal Statement และ Reference ที่ดีพอ และนั่นคือสิ่งที่จะทำให้เราได้ใจของ Oxbridge และ Top UK University ไปเต็ม ๆ
Extra Assessments และ Interview

Extra Assessments และ Interview นั้น ง่ายมากสำหรับผู้ที่เตรียมตัว และ ยากมากสำหรับผู้ที่ไม่เตรียมตัว หรือเตรียมตัวไม่ทัน เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือการรู้ล่วงหน้าว่า ตอนต้น Year 13 เราจะต้องทำ Extra Assessments อะไรบ้าง และต้อง Interview อย่างไรบ้าง
สิ่งเหล่านี้จะรู้ได้จากการที่เรารู้ล่วงหน้าว่าเราจะสมัคร University ไหนบ้างใน UCAS และเนื่องจากข้อมูลเหล่านี้มักมีการ update อยู่เสมอ ๆ จุดที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มเลือก final choices ของตัวเองว่าจะเลือก University ไหนบ้างใน UCAS ก็คือ หลังสอบ IGCSE ตอนปลาย Year 11 เสร็จ
เมื่อสอบ IGCSE เสร็จแล้ว ก่อนขึ้น Year 12 ให้เริ่มใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการหาข้อมูลของ Course และ University ที่อยากเรียน ไม่ว่าจะเป็นการดู Ranking สำนักต่าง ๆ การดูข้อมูลตรงจากเว็บไซต์ของ UCAS หรือการใช้เครื่องมือที่โรงเรียนที่สังกัดอยู่อาจมีให้อย่าง Unifrog แล้วเริ่มเข้าไปอ่านข้อมูลในเว็บไซต์ของแต่ละ University ว่า
- แต่ละปี ๆ ต้องเรียนอะไรบ้าง ใช่วิชาที่อยากเรียนหรือไม่ มี Course syllabus ที่น่าสนใจหรือไม่
- ต้องใช้เกรดเท่าไร Profile อย่างไรในการเข้าไปเรียน
- และ ต้องมี Extra Assessments อะไรบ้าง (เช่น Admissions Tests, Written Works, Additional Personal Statements) และมี Interview แบบไหนบ้าง
การรู้ข้อมูลเหล่านี้ล่วงหน้า จะทำให้เราสามารถแบ่งเวลาตอน Year 12 จากการเรียน A-level และการเก็บสะสม Super Curricular Activities ต่าง ๆ มาใช้ในการฝึกซ้อมและเตรียมตัวสำหรับ Extra Assessments และ Interview ได้
เมื่อรู้ล่วงหน้าก็จะรู้ว่าอะไรที่ต้องทำ และอะไรที่ไม่ต้องทำ ก็จะสามารถเตรียมตัวได้อย่างตรงจุด และทำ Profile ในส่วนนี้ได้ดี ในปัจจุบันนี้ 2 ส่วนนี้เป็นส่วนที่ Oxbridge และ Top UK University ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นมาก เพราะเป็นตัววัดได้อย่างแท้จริงว่า คน ๆ หนึ่งมีความเหมาะสมที่จะเรียน Course นี้ที่เขามากน้อยแค่ไหนอย่างไร
บทสรุป
ทั้ง 5 สิ่งสำคัญ ได้แก่ Academic Profile, Personal Statement, Reference, Extra Assessments, และ Interview นั้น เป็นสิ่งที่ Oxbridge และ Top UK University ใช้ในการตัดสินว่า เรามีความ Born to be และมี Passion ในสิ่งที่เลือก และมี Life Purpose ที่ชัดเจนมากแค่ไหน ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักที่ Oxbridge และ Top UK University มองหา การเตรียมสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และทำขั้นตอนต่าง ๆ ถูกต้องในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จได้
คลิปข้างล่างนี้ เป็นสรุปเรื่องราวข้างต้น สามารถดูประกอบการอ่านข้อมูลข้างต้นเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นได้
สนใจวางแผนพูดคุยเพิ่มเติมกับทีม Consult มืออาชีพ เกี่ยวกับการเตรียม Profile สำคัญทั้ง 5 อย่างนี้ หรือรับคำปรึกษาเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับเรียน สามารถติดต่อพวกเราได้ที่ 084-320-1789 และ Line @apsthai ครับ
APSthai : The Best Education in Your Own Version